กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น (5 ธันวาคม 2021) ขณะที่ผู้เล่น Gran Turismo Sport หลายพันคนต่อสู้กันในการแข่งประจำสัปดาห์ในฤดูกาลออนไลน์ของ FIA Certified Gran Turismo Championships 2021 เหล่านักแข่งระดับท็อปก็กำลังแข่งขันกันในรูปแบบปรับปรุงใหม่ไปพร้อมๆ กัน ผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนเข้าร่วมจากทั่วโลกในศึก World Series 4 นัด และการชิงชัยใน World Series กลางฤดูกาล โดยมีการสะสมคะแนน World Series มานับรวมใน Nations Cup รอบ World Finals ซึ่งเป็นอีเว้นท์สุดท้ายของรายการแข่งขันในปี 2021 ที่ถ่ายทอดไปเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

ในรอบชิงชนะเลิศ นักแข่งที่รวดเร็วที่สุดในโลก 32 คนได้มารวมตัวกันและแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม เพื่อแข่งขันในการแข่งรอบรองสุดท้าย 3 ครั้งตามภูมิภาค ผู้ชนะได้ 12 คะแนน อันดับที่ 2 ได้ 10 คะแนน อันดับที่ 3 ได้ 8 คะแนนลดหลั่นกันไป เป้าหมายของนักแข่งแต่ละคนก็คือการเข้าร่วมรอบชิงชนะเลิศและเพิ่มคะแนนสะสมของตัวเองให้ได้มากที่สุด เนื่องจากคะแนนในรอบชิงชนะเลิศจะเพิ่มเป็น 2 เท่า ทำให้แม้แต่ผู้เล่นท้ายแถวก็ยังมีโอกาสคว้าถ้วยรางวัล Nations Cup 2021 ไปครอง แต่พวกเขาต้องงัดทักษะมาใช้อย่างเต็มที่เพื่อเอาชนะ Valerio Gallo นักแข่งคนโปรดจากอิตาลีที่ซิ่งเร็วไม่มีแผ่วมาตลอดรายการ ทำให้เขาเข้าสู่รอบสุดท้ายได้โดยที่ได้เปรียบคู่แข่งที่ใกล้เคียงที่สุดจากสเปนอย่าง Jose Serrano อยู่ 6 แต้ม

รอบรองสุดท้ายกลุ่ม A ภูมิภาคเอเชีย-โอเชียเนีย: เมาท์พาโนรามา มอเตอร์เรซซิ่งเซอร์กิต

การแข่ง Nations Cup รอบแรกของวันเป็นการแข่ง 8 รอบสนามด้วยรถทัวริ่ง Mazda Roadster ที่เมาท์พาโนรามา มอเตอร์เรซซิ่งเซอร์กิตในประเทศออสเตรเลีย บ้านของ Bathurst 1000 Takuma Miyazono แชมป์เก่าจากญี่ปุ่น (Kerokkuma_ej20) ทำเวลาได้เร็วที่สุดในรอบคัดเลือกของกลุ่มเอเชีย-โอเชียเนีย ทำให้เขาได้รับตำแหน่งโพลโพซิชั่นในการแข่งรอบนี้ ตามด้วยเพื่อนร่วมชาติ Ryota Kokubun (Akagi_1942mi) และ Guy Barbara (PX7-Twitchy) จากออสเตรเลีย และ Andrew Lee (PX7-AmazingHour)

มีเพียงผู้เข้าเส้นชัย 5 อันดับแรกเท่านั้นที่จะได้ไปต่อในรอบชิงชนะเลิศ รถทั้ง 10 คันจึงต้องไล่ขับเคี่ยวกันตั้งแต่เนิ่นๆ Miyazono เป็นจ่าฝูงตลอดโค้งที่ 1 ส่วน Lee แซง Barbara ไปอยู่ที่อันดับ 3 ในรอบสนามต่อไป Kanata Kawakami จากญี่ปุ่น (SG_Kawakana) แทรกผ่าน Barbara ที่โค้งควอร์รีเพื่อชิงอันดับ 4 ตามด้วย Lee ที่แซง Kokubun จากการโฉบเข้าด้านในอย่างน่าหวาดเสียวตอนออกจากโค้ง 4 และขยับขึ้นมาเป็นที่ 2

เห็นได้ชัดว่าวันนี้ Lee ไม่ได้มาเล่นๆ เพราะเขาได้แสดงการขับขี่ที่รวดเร็วอย่างน่าทึ่งในรอบสนามแรกๆ ของการแข่งขัน ในรอบสนามที่ 3 เขาไล่ตามและแซงหน้า Miyazono ที่ทางตรงคอนรอดและขึ้นเป็นจ่าฝูง เมื่อมาถึงครึ่งทางของการแข่งขัน รถอันดับที่ 1 ถึง 10 ยังคงเกาะกลุ่มกันอย่างเหนียวแน่น แต่ละคันห่างกันไม่เกินครึ่งวินาทีเท่านั้น Lee อยู่หัวแถว โดยมี Miyazono, Kokubun และ Barbara จี้มาติดๆ

ในรอบสนามที่ 5 Tomoaki Yamanaka (yamado_racing38) จากญี่ปุ่นพยายามแทรกเข้าเลนในของ Barbara อย่างดุเดือดในช่วงโค้งที่ 4 ซึ่งเป็นโค้งแฮร์พิน ชน Roadster ของนักแข่งชาวออสเตรเลีย ทำให้ Barbara ร่วงไปอยู่อันดับสุดท้าย กรรมการไม่ปลื้มกับเทคนิคของ Yamanaka ทำให้เขาได้รับบทลงโทษหนักเป็นเวลา 2 วินาที ทำให้เขาหลุดจากกลุ่มหัวแถว และดับฝันการได้คว้าแชมป์ Nations Cup ตามหลังตำแหน่งใน Manufacturer Series ของเขาทันที

ความระทึกของการแข่งมาถึงจุดสูงสุดเมื่อจบรอบสนามที่ 7 เมื่อรถ 7 อันดับแรกกระแทกกันตลอดโค้งที่ 22 และ 23 ต่างคนต่างอยากชิงอันดับในรอบสนามสุดท้ายของการแข่งขัน และยังคงสู้กันต่อไปจนถึงเริ่มรอบสนามที่ 8 โดยมี Kokubun, Kawakami และ Tatsuhiko Kato จากญี่ปุุ่น (Tatsukt) ขับหน้ากระดานเรียงสาม พยายามคว้าอันดับที่ 5 Kawakami ชนะศึกครั้งนี้ แต่ผู้ที่ฉวยโอกาสจากช่วงเวลาอลหม่านได้ดีที่สุดคือ Matt McEwen (AE_McEwen) ชาวนิวซีแลนด์ที่เข้ามาเป็นอันดับ 3 ได้โดยเริ่มจากอันดับ 5 โดยที่เหลือรอบสนามอีกไม่ถึง 1 รอบ ที่ทางตรงคอนรอด Takuma Miyazono แซง Lee และขึ้นนำได้สำเร็จ การแข่งขันจบลงอย่างเร้าใจเมื่อ Lee พยายามเบนออกด้านนอกที่โค้งสุดท้าย แต่กลับทำวงกว้างเกินไป และตอนที่ Miyazono เข้าเส้นชัย Matt McEwen ก็โผล่เข้ามาแซงหน้านักแข่งชาวออสเตรเลียและชิงอันดับ 2 ไปจาก Lee Kanata Kawakami กับ Ryota Kokubun คือผู้เล่น 2 คนสุดท้ายใน 5 อันดับแรกและได้ไปต่อในรอบชิงชนะเลิศ

รอบรองสุดท้ายกลุ่ม B: ออโต้โดรโม่ นาเซียวนาเล่ มอนซ่า

การแข่งรอบที่ 2 ของวันมีผู้เข้าแข่งขันที่เส้นออกตัวมากที่สุดในบรรดาการแข่งรอบรองสุดท้ายทั้ง 3 รอบ โดยมีนักแข่ง 13 คนที่เป็นตัวแทนของภูมิภาคยุโรป/ตะวันออกกลาง/แอฟริกา และ 6 ทีมอันดับแรกที่จะได้เข้าไปสู่รอบชิงชนะเลิศ ทุกคนขับ Gran Turismo F1500T รถแข่งฟอร์มูลาสำหรับการต่อสู้ 15 รอบสนามในออโต้โดรโม่ นาเซียวนาเล่ มอนซ่า รถทุกคันต้องใช้ทั้งยางเนื้ออ่อนและเนื้อปานกลางในหนึ่งรอบสนามเป็นอย่างน้อย ทำให้นักแข่งต้องวางกลยุทธ์เรื่องการเข้าพิตให้ดีๆ ผู้ที่เร็วที่สุดในรอบคัดเลือกคือ Patrik Blazsán (RSZe_Fuvaros8) จากฮังการีที่ได้ครองโพลโพซิชั่นในการแข่งรอบนี้ ตามด้วย Jose Serrano จากสเปน (PR1_JOSETE) Valerio Gallo จากอิตาลี (Williams_BRacer) และ Kylian Drumont จากฝรั่งเศสที่เดิมไม่มีใครรู้จัก (eMONACO_Kylian19K)

นอกจาก Coque López (coqueIopez14) ที่อยู่ในอันดับที่ 12 แล้ว นักแข่งทุกคนเลือกที่จะเริ่มการแข่งขันโดยใช้ยางเนื้อแข็ง แผนของเขาคือการไต่อันดับในสนาม แซงหน้าให้ไวที่สุด และใช้ประโยชน์จากอากาศที่ปลอดโปร่งด้านหน้าในการสร้างแนวต้าน แล้วค่อยเปลี่ยนไปใช้ยางเนื้อแข็ง นี่เป็นกลยุทธ์ที่บ้าบิ่น แต่อาจให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมถ้าทุกอย่างเป็นไปตามแผน การแข่งเริ่มขึ้นทันทีที่ Serrano และ Gallo ไล่ทึ้ง Blazsán ที่โค้งแรกและพยายามจะขึ้นนำ Serrano ฝ่ามาได้ แต่ Gallo ยังติดอยู่หลังนักแข่งชาวฮังการี ในเวลาเดียวกัน Quinten Jehoul (ERM_Quinten) จากฮังการีก็ถูกดันออกนอกสนามโดย Nikita Moysov จากสาธารณรัฐเช็ก (ERM_Nick) ทำให้เขาหล่นจากอันดับที่ 5 ไปอยู่รั้งท้าย ส่วน Lópe ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 5 ท่ามกลางความชุลมุน Moysov ถูกลงโทษ 3.0 วินาทีจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ ทำให้เขาตกรอบไปโดยปริยาย

หลังจบรอบสนามที่ 1 นักแข่งจำนวนมากต่างเข้าพิต ทุกคนที่ใช้ยางเนื้อแข็งเปลี่ยนไปใช้ยางเนื้อปานกลาง López ยังคงไม่เข้าพิตและขึ้นนำในการแข่งขัน ด้วยหวังจะทิ้งระยะห่างให้มากก่อนถึงคราวเข้าพิต และแผนการของเขาก็เป็นไปอย่างที่ต้องการ

เมื่อถึงกลางรอบสนามที่ 4 López ก็ทิ้งห่าง Serrano กับ Gallo ถึง 20 วินาที Giorgio Mangano (Williams_Gio) จากอิตาลีขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 4 หลังจากออกตัวที่อันดับ 10 สถานการณ์เริ่มยุ่งเหยิงในรอบสนามที่ 5 เมื่อรถจากอันดับ 8 ถึง 12 ต้องขับเคี่ยวกันผ่านโค้งดิเลสโม รถแต่ละคันกระแทกและเสียดสีกันเองอย่างหนักหน่วง ทำให้กรรมการต้องยุ่งอยู่กับการคำนวณบทลงโทษสำหรับ Nicolas Romero จากสเปน (ERM_NicoRD) Moysov และ Miroslaw Kravchenko (V1_MK01) จากเยอรมนี

Baptiste Beauvois (R8G_TSUTSU) จากฝรั่งเศสแซงหน้า Mangano ตั้งแต่เริ่มรอบสนาม 7 และขึ้นเป็นอันดับ 4 ส่วน López ก็นำห่างออกไปแล้วถึง 21 วินาที เมื่อถึงรอบสนามต่อมา Mangano ก็คว้าตำแหน่งคืนมาได้ตอนที่รถขับอยู่ที่ความเร็ว 315 กม./ชม. ในทางตรง López ขับเข้าพิตเมื่อจบรอบสนามที่ 14 ตามคาด โดยที่ยังได้เปรียบคนอื่นๆ อยู่ 21 วินาที แต่นั่นจะเพียงพอหรือไม่ในการรักษาตำแหน่งจ่าฝูงเอาไว้ตอนออกจากพิต? คำตอบก็คือ ไม่ เขาออกมาก่อน Serrano และ Gallo แป๊บเดียวเท่านั้น แต่ก็ถูกแซงไปได้ระหว่างที่เขากำลังเร่งเครื่อง

รอบสนามสุดท้ายคือการแข่งขันอันดุเดือดระหว่างสองนักแข่งที่มีคะแนนนำในการแข่งขัน Gallo และ Serrano เมื่อนักแข่งชาวอิตาลีชิงตำแหน่งหัวแถวมาจากนักแข่งชาวสเปนที่ Curva Biassono Serrano ยังคงจี้ท้ายรถของ Gallo อย่างไม่ลดละ โดยตั้งใจจะเฉือนแซง Gallo ที่ทางตรงด้านหลังและเร่งเครื่องผ่าน Curva Parabolica ในช่วงสุดท้ายของสนาม Gallo เดาแผนการของ Serrano ได้ และขวางเลนในทางตรงด้านหลัง บีบให้ Serrano อยู่เลนนอก นักแข่งชาวสเปนขึ้นแซงได้อึดใจหนึ่ง แต่การที่เขาต้องตีโค้งไกลกว่าทำให้ Gallo ชิงอันดับหัวแถวกลับคืนมาได้เมื่อถึงทางตรงด้านหน้า แต่ Jose Serrano ก็ยังไม่ยอมแพ้และตัดสินใจบุกสุดกำลังครั้งสุดท้าย แต่ก็ไม่สำเร็จ ทำให้เขาเข้าเส้นชัยหลัง Valerio Gallo เพียง 0.04 วินาทีเท่านั้น! Coque López ที่แสดงทักษะการขับขี่อันยอดเยี่ยมและกลยุทธ์เข้าพิตที่บ้าบิ่นเข้าเส้นชัยเป็นอันดับ 3 ตามด้วย Baptiste Beauvois, Giorgio Mangano และ Patrik Blazsán ที่คว้าตั๋วเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศได้สำเร็จ

รอบรองสุดท้ายกลุ่ม C: บลูมูนเบย์ สปีดเวย์ - สนามด้านใน A

การแข่งรอบรองสุดท้ายสำหรับภูมิภาคอเมริกาครั้งนี้ประกอบด้วยผู้เล่น 9 คน และผู้เล่น 5 อันดับแรกจะได้เข้ารอบชิงชนะเลิศ ผู้ครองตำแหน่งออกตัวคนแรกในการแข่ง 17 รอบสนามในบลูมูนเบย์ สปีดเวย์ - สนามด้านใน A คือ Lucas Bonelli จากบราซิล (TGT_BONELLI) ตามด้วย Angel Inostroza นักแข่งจากชิลี (YASHEAT_Loyrot) ในอันดับ 2 และ Igor Fraga (IOF_RACING17) อีกหนึ่งนักแข่งชาวบราซิลออกตัวที่อันดับ 3 นักแข่งทุกคนจะต้องใช้ยางเนื้อปานกลางและเนื้อแข็งอย่างน้อยหนึ่งรอบสนาม ซึ่งหมายความว่าพวกเขาต้องเข้าพิตอย่างน้อยหนึ่งครั้ง

รถแข่ง Ford GT ต่างออกตัวอย่างราบรื่น ยังไม่มีใครพยายามแซงใคร แต่ Andrew Brooks ชาวแคนาดา (PX7-Deafsun) พบปัญหาอันเดอร์
สเตียร์ในช่วงโค้งที่ 4 และชนเข้ากับกำแพง ทำให้เขาตกไปอยู่ท้ายแถวทันที ในทางตรงข้าม Daniel Solis ชาวอเมริกัน (PX7-Lamb) ไต่อันดับมาอยู่ที่ 6 หลังจากออกตัวเป็นคนสุดท้าย Solis และ João Pessôa (GRID_JoaoSof) จากบราซิลเข้าพิตเมื่อจบรอบสนามแรกเพื่อเปลี่ยนไปใช้ยางเนื้อปานกลางที่แล่นได้ไวกว่าทันที เมื่อถึงรอบสนามที่ 3 นักแข่ง 4 อันดับแรกได้แก่ Bonelli, Inostroza, Fraga และ Juan Hernandez (TX3_Kangreti) จากกัวเตมาลาก็เริ่มทิ้งห่างจากฝูง โดยนำห่างจากรถอันดับ 5 ของ Brooks อยู่ 3.4 วินาที เมื่อจบรอบสนามที่ 4 กลุ่มจ่าฝูงก็เข้าพิต ทุกคนเปลี่ยนไปใช้ยางเนื้อปานกลาง ก่อนจะกลับลงสนามตามลำดับเดิม

การแข่งขันผ่านไปครึ่งทางแล้ว รถ 4 คันแรกทิ้งห่างรถที่ตามหลังแล้วกว่า 6 วินาที โดยมี Adriano Carrazza (KoA_Didico15) จากบราซิล Brooks และ Randall Haywood (R8G_Originals) จากสหรัฐฯ ที่ต้องแย่งชิงอันดับ 5 ซึ่งจะเป็นอันดับสุดท้ายที่จะได้เข้ารอบชิงชนะเลิศ ในรอบสนามที่ 11 Brooks พยายามแซงออกเลนนอกของ Carrazza โดยการโฉบยาวผ่านโค้งที่ 1 จนนำ Ford GT ของตัวเองขึ้นแซงนักแข่งชาวบราซิลได้ แต่ Carrazza ก็ชิงตำแหน่งคืนทันทีผ่านโค้งที่ 5 ซึ่งเป็นโค้งแฮร์พิน ตอนนั้นเองที่กลยุทธ์นำและตามของกลุ่มรถ 4 อันดับแรกดูจะสิ้นสุดลง เมื่อ Inostroza เริ่มกดดัน Bonelli เพื่อที่จะขึ้นเป็นจ่าฝูง

ขณะที่ Carrazza กับ Brooks กำลังสู้กันเพื่อชิงอันดับ 5 Haywood รออย่างใจเย็นในสลิปสตรีมเพื่อดูว่าใครจะทำพลาด และแล้วช่วงเวลานั้นก็มาถึงในโค้งที่ 6 เมื่อล้อรถของ Brooks แตะหญ้าในสนาม ทำให้เขาและ Carrazza ขับได้ช้าลงมากพอที่ Haywood จะแซงขึ้นไปได้ Brooks ตั้งหลักรถของเขาได้ไว เขาแซงนักแข่งชาวบราซิลและตั้งใจจะเอาคืนนักแข่งชาวอเมริกัน และเขาก็ทำได้สำเร็จในรอบสนามถัดไป

ในรอบสนามสุดท้าย ในที่สุด Inostroza ก็ตั้งใจขึ้นเป็นหัวแถวโดยการขับเข้าเลนในของ Bonelli และพยายามเบรกเขาที่โค้งที่ 4 ซึ่งเป็นโค้งแฮร์พิน ซึ่งเขาทำได้สำเร็จ แต่ก็เพียงชั่วครู่เท่านั้น เพราะ Bonelli เกาะวงในเอาไว้แน่นในโค้งถัดไป ทำให้ Inostroza ต้องอยู่เลนนอกเมื่อถึงโค้ง 5 Bonelli และ Fraga จึงได้โอกาสขับขึ้นแซง ทำให้ Inostroza ตกไปอยู่อันดับที่ 3 อย่างน่าผิดหวัง การแข่งขันสิ้นสุดลงด้วยการเข้าเส้นชัยเป็นที่หนึ่งของ Lucas Bonelli ตามมาด้วย Igor Fraga, Angel Inostroza, Juan Hernandez และ Andrew Brooks ผู้ได้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเป็นคนสุดท้าย

รอบชิงชนะเลิศ: ดราก้อนเทรล – ซีไซด์

และแล้วก็มาถึงบทสรุป นักแข่ง 16 คนสุดท้ายต้องขับเคี่ยวใน 22 รอบสนามในสนามดราก้อนเทรล - ซีไซด์สุดท้าทาย เพื่อที่จะตัดสินว่าใครจะได้กลับบ้านไปพร้อมกับตำแหน่งแชมป์ Nations Cup 2021 การแข่งครั้งนี้มีคะแนนสองเท่า ทำให้ผู้เล่นแทบทุกคนในสนามมีโอกาสที่จะชนะคะแนนได้ แต่ดูเหมือนว่าโชคจะเข้าข้าง Valerio Gallo จากอิตาลีที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในปี 2021 Gallo เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศด้วยคะแนน 30 คะแนน โดยมี Jose Serrano คู่แข่งตัวฉกาจตามหลังอยู่ 8 คะแนน นักแข่งสองคนที่ผ่านเข้ารอบเร็วที่สุดนี้นำ Ford GT LM Spec II Test Car ลงสู่สนามในแถวแรก โดยที่โพลโพซิชั่นเป็นของ Serrano แชมป์ภูมิภาคอเมริกาอย่าง Lucas Bonelli จากบราซิลออกตัวที่อันดับ 3 และ Takuma Miyazono จากญี่ปุ่นอยู่ที่อันดับ 4 และเช่นเดียวกับรอบชิงชนะเลิศ Nations Cup ทุกครั้ง นักแข่งทุกคนต้องใช้ยางเนื้ออ่อน เนื้อปานกลาง และเนื้อแข็งอย่างน้อยหนึ่งรอบสนาม หมายความว่าพวกเขาต้องเข้าพิตสองครั้ง

ทันทีที่ไฟเขียวสว่างขึ้นก็เห็นได้ชัดว่าศึกครั้งนี้จะดุเดือดแค่ไหน เมื่อนักแข่งแต่ละคนตั้งใจเร่งเครื่องผ่านโค้งที่ 1 Kanata Kawakami จากญี่ปุ่นเดินหน้าได้ไวที่สุด โดยแซงเพื่อนร่วมชาติ Takuma Miyazono ที่ใช้ยางเนื้อแข็งที่วิ่งได้ช้ากว่า และพุ่งแซง Bonelli ที่ใช้ยางเนื้อแข็งเช่นกันที่เลนนอกหลังโค้งที่ 3 จากนั้นจึงขึ้นแซง Serrano เพื่อขึ้นเป็นจ่าฝูงในช่วงโค้งแฮร์พิน ขบวนรถเริ่มเป็นรูปเป็นร่างหลังผ่านรอบสนามแรกไปครึ่งทาง ซึ่งห้าอันดับแรกเป็นรถที่ใช้ยางเนื้อปานกลาง ได้แก่ Gallo, Serrano, Kawakami, Juan Hernandez จากกัวเตมาลา และ Andrew Lee จากออสเตรเลีย

ในรอบสนามที่ 2 Kawakami แสดงให้เห็นว่าเขามาเพื่อทุบ เมื่อเขาชิงอันดับ 2 ไปจาก Serrano ที่โค้งแฮร์พินก่อนเข้าสู่ทางตรง เมื่อจบรอบสนามนี้ นักแข่งกลุ่มแรกก็เข้าพิต รวมถึงแชมป์เก่าอย่าง Miyazono กับ Coque López จากสเปน และอดีตแชมป์ปี 2018 Igor Fraga จากบราซิล ที่ออกตัวในอันดับที่ 14 อย่างน่าผิดหวัง ระหว่างที่ Miyazono และ Fraga สลับไปใช้ยางเนื้ออ่อน López เลือกที่จะเก็บเอาไว้ใช้ในช่วงท้ายการแข่งขัน และเลือกใช้ยางเนื้อปานกลาง

ทันทีที่เริ่มรอบสนามที่ 4 Gallo ก็เร่งความเร็วนำห่างอยู่ 1.2 วินาที น้อยกว่าช่องว่าง 1 วินาทีระหว่างรถอันดับ 2 ถึงอันดับ 5 ของ Kawakami, Serrano, Hernandez และ Andrew Lee จากออสเตรเลีย แต่แล้วหายนะก็บังเกิดกับ Kawakami ในรอบสนามต่อมา เมื่อเขาเร่งเครื่อง Ford GT ผ่านโค้งขวาที่ 4 มากเกินไปจนท้ายรถไถลไปชนกำแพงด้านใน โชคดีที่เขาตกลงไปแค่ 4 อันดับเท่านั้น แต่นั่นก็ทำให้โอกาสที่เขาจะได้เป็นแชมป์รายการลดลงด้วย

ระหว่างนั้น Miyazono ก็ไล่บี้จ่าฝูงอยู่เงียบๆ โดยนำทัพนักแข่งที่เข้าพิตไปแล้วหนึ่งครั้ง นอกจากนี้ยังมี Baptiste Beauvois จากฝรั่งเศสที่ไต่อันดับขึ้นมาเงียบๆ จากการออกตัวคนสุดท้ายมาอยู่ที่ 10 ในรอบสนามที่ 7 กลุ่มจ่าฝูงเข้าพิต Gallo กับ Hernandez เลือกเปลี่ยนไปใช้ยางเนื้ออ่อน ส่วน Serrano กับ Lee ใช้ยางเนื้อปานกลาง มีแต่เวลาเท่านั้นที่จะบอกได้ว่าใครใช้กลยุทธ์ที่ถูกต้อง เมื่อพวกเขากลับลงสนาม แม้ว่า Mangano จะขึ้นนำอย่างเป็นทางการเพราะยังไม่ได้เข้าพิต จ่าฝูงตัวจริงก็คือ Miyazono โดยมี Gallo ตามหลังอยู่ 1.9 วินาที Ryota Kokubun จากญี่ปุ่นที่ใช้ยางเนื้ออ่อนเช่นกันได้ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 4 อย่างไม่น่าเชื่อ และมี Fraga กับ Serrano ตามหลังอยู่

ในรอบสนามที่ 9 Gallo แสดงให้เห็นว่าทำไมเขาจึงเป็นคนที่ควรจับตามอง เมื่อเขาแซง Miyazono ที่นอกโค้ง 11 ได้อย่างเชี่ยวชาญและขึ้นเป็นจ่าฝูง เมื่อจบรอบสนามที่ 10 Miyazono ก็เข้าพิตครั้งสุดท้าย และเลือกใช้ยางเนื้อปานกลาง โดยหวังว่าพวกมันจะอยู่ไปได้จนจบการแข่งขัน นี่ทำให้ Kokubun ได้อยู่อันดับ 2 เป็นครั้งแรก ตามด้วย Hernandez, Mangano และ Serrano หลังการเข้าพิตในรอบสนามต่อๆ มา Miyazono หาทางไต่กลับขึ้นมาที่อันดับ 4 ตามหลัง Gallo, Hernandez และ Mangano ที่ยังต้องเข้าพิตอีกหนึ่งครั้ง และที่น่าสนใจคือ Beauvois ที่ไต่ขึ้นมาอยู่ที่อันดับ 6

ในรอบสนามที่ 17 Gallo กับ Hernandez ที่อยู่อันดับ 2 ได้เข้าพิตครั้งสุดท้าย และต้องใช้ยางเนื้อแข็งที่วิ่งช้าที่สุด พวกเขากลับลงสนามในอันดับที่ 2 และ 4 ตามลำดับ (Mangano จ่าฝูงตอนนี้ยังต้องเข้าพิตอีก 1 ครั้ง) โดยมี Miyazono อยู่ตรงกลาง และ Beauvois อยู่ในอันดับ 5 เหลืออีกเพียง 4 รอบสนามเท่านั้น Gallo ที่ใช้ยางเนื้อแข็งต้องงัดทักษะทุกอย่างออกมาใช้เพื่อต้าน Miyazono ที่ใช้ยางเนื้อปานกลาง และ Beauvois ที่ใช้ยางเนื้ออ่อน การแข่งชิงแชมป์ Nations Cup ตกเป็นของนักแข่งทั้ง 3 คนนี้!

หลังผ่านรอบสนามที่ 18 มาได้ครึ่งทาง Miyazono ขึ้นแซง Gallo ที่โค้งที่ 11 ซึ่งเป็นโค้งแฮร์พินขึ้นนำหัวแถว แต่เขากลับทำพลาดในการขับผ่านโค้งชิเคน อันดับหัวแถวเลยตกเป็นของนักแข่งชาวอิตาลีอีกครั้งหนึ่ง ขณะที่ Miyazono พยายามอย่างเต็มที่ที่จะแซง Gallo Beauvois ก็เริ่มไล่บี้นักแข่งชาวญี่ปุ่นเพื่อหาวิธีขึ้นนำ และเขาก็สบโอกาสนี้ในรอบสนามที่ 19 หลังโค้งชิเคน เขาขึ้นเป็นอันดับ 2 และตั้งเป้าไล่กวด Ford GT สีแดงของ Gallo นักแข่งชาวฝรั่งเศสจะทำสิ่งที่แทบเป็นไปไม่ได้อย่างการออกตัวเป็นคนสุดท้ายและปิดท้ายด้วยการเป็นอันดับหนึ่งในรอบชิงชนะเลิศสำเร็จหรือไม่?

Beauvois เฉือนแซง Gallo และชิงอันดับ 1 คืนในรอบรองสุดท้าย แต่ยางเนื้ออ่อนของเขาสึกแล้ว ทำให้ Gallo ยังคงตามเขาได้ติดๆ ตลอดรอบสนาม อาจเพราะแรงกดดันจาก Gallo ที่ทำให้ Beauvois เสียหลักเล็กน้อยขณะซิ่งผ่านโค้งชิเคน ทำให้ Valerio Gallo สบช่องในการชิงอันดับหนึ่งคืนมา นักแข่งชาวอิตาลีไม่รอช้า แล้วขับเข้าเส้นชัยไปทันที กลายเป็นแชมป์ Nations Cup 2021 ได้อย่างน่าประทับใจ โดยได้คะแนนนำรองชนะเลิศ Jose Serrano ที่เข้าเส้นชัยในอันดับ 4 อยู่ 18 แต้ม และนำ Takuma Miyazono ในอันดับ 3 อยู่ 22 แต้ม ผลงานอันยอดเยี่ยมของ Baptiste Beauvois ในรอบชิงชนะเลิศนี้ทำให้เขาได้อันดับ 4 ของรายการแข่ง

Gallo กล่าวหลังคว้าตำแหน่งแชมป์ Nations Cup ได้เป็นครั้งแรกว่า "นี่เป็นรายการแข่งที่ยอดเยี่ยมครับ การที่ผมได้ตำแหน่งแชมป์ Nations Cup ชนะ 4 รอบ และเป็นผู้ชนะ Olympic Virtual Series เป็นเรื่องที่วิเศษมาก ตอนนี้ผมบรรยายความรู้สึกตัวเองไม่ได้เลย เพราะผมใช้เวลาค้นหาตัวเองมาตลอดทั้งปี ผมขออุทิศตำแหน่งแชมป์นี้ให้กับทุกคนที่ให้การสนับสนุนผมครับ"

รายการแข่งขัน Nations Cup ประจำปี 2021 - รอบ World Finals
ผลการแข่งขัน