การแข่งที่ 1 มีขึ้นที่โตเกียวเอ็กซ์เพรสเวย์ - เซาท์ (วงใน) ซึ่งเป็นสนามแข่งที่เปิดตัวในทัวร์นาเมนต์นี้
ดังนั้นสำหรับนักแข่งทั้ง 16 คนที่เข้าร่วมแล้ว กุญแจที่จะนำไปสู่ชัยชนะก็คือการปรับตัวให้เข้ากับสนามแข่งที่ไม่คุ้นเคยอย่างรวดเร็วและใช้เวลาฝึกที่มีสั้นๆ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดเพื่อพยายามค้นหากลยุทธ์ในการเอาชนะให้ได้

ตำแหน่งโพลโพสิชั่นตกเป็นของ Igor Fraga (IOF_RACING17) จากบราซิลที่ขับรถ M4 นักแข่งจากบราซิลอีกรายคือ Adriano Carrazza (CRT-Didico15) ซึ่งใช้รถ DB11 สามารถแซงขึ้นนำรถ F50 ของ Shogo Yoshida (gilles_honda_v12) จากญี่ปุ่นได้ในโค้งแรก แล้วขยับขึ้นไปอยู่ในอันดับที่ 2

โค้งที่ 2 ของการแข่งเป็นจุดเกิดอุบัติเหตุที่สร้างความตกตะลึงไปทั่วสนาม
Ryota Kokubun (Akagi_1942mi) จากญี่ปุ่น ผู้ชนะจากรอบสุดท้ายของภูมิภาคเอเชีย-โอเชียเนีย เกิดผิดพลาดในการเบรกอย่างร้ายแรง ทำให้รถ NSX ของเขาชนเข้ากับรถ Amuse S2000 ของ Jeffrey Gallan (FT_LLOYDZELITE) จากแคนาดา Gallan (FT_LLOYDZELITE) ที่เคยอยู่ในอันดับที่ 5 ต้องตกลงมาอยู่ในอันดับสุดท้ายจากอุบัติเหตุครั้งนี้
เสียงสูดหายใจอย่างตกตะลึงของนักแข่งคนอื่นๆ ที่ชมการแข่งอยู่ในอารีน่าดังขึ้น เมื่อพวกเขาเห็นความผิดพลาดที่ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้นี้โดย Kokubun (Akagi_1942mi)

แน่นอนว่า Kokubun (Akagi_1942mi) ย่อมโดนลงโทษเวลา แต่ดูเหมือนเขาจะยังสะเทือนใจไม่หายจากการชนที่เกิดขึ้นและผลกระทบอันเลวร้ายที่มีต่อนักแข่งอีกคน ในรอบที่ 10 การขับที่ค่อนข้างดุดันของเขาก็ทำให้เขาไปเกี่ยวพันกับอุบัติเหตุอีกครั้ง

จมูกรถ NSX ของ Kokubun (Akagi_1942mi) ไปสัมผัสเบาๆ กับท้ายรถ Ford GT ซึ่งขับโดย Jonathan Wong (saika159-) จากฮ่องกงซึ่งเป็นคู่แข่งตัวยงของ Kokubun (Akagi_1942mi) ในการแข่งขันออนไลน์ แม้จะไม่ใช่การชนที่รุนแรงอะไร แต่โตเกียวเอ็กซ์เพรสเวย์เป็นสนามแข่งที่ไม่มีพื้นที่ว่างด้านข้างจึงทำให้เกิดผลพวงตามมาที่เลวร้าย
หลังจากเป็นต้นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง 2 ครั้งภายในระยะเวลาไม่กี่นาที Kokubun (Akagi_1942mi) ก็คงต้องจบการแข่งที่ 1 ในอันดับสุดท้ายอย่างแน่นอน

Tomoaki Yamanaka (yamado_racing38) จากญี่ปุ่น เริ่มต้นการแข่งในอันดับที่ 9 แต่เพียงไม่นานก็พุ่งทะยานแซงหน้าไปได้หลายคันด้วยรถ F-Type ของเขา ในโค้ง 3 ของการวิ่งรอบที่ 2 เขาขยับขึ้นไปอยู่อันดับที่ 4 หลังจากแซงนักแข่งชาวชิลี 2 คนอย่าง Nicolás Rubilar (FT_NicoR) ในรถ Maserati และ Fabián Portilla (FT_Mcqueen91) ในรถ LC500 ได้สำเร็จ

ในการวิ่งรอบที่ 4 Yoshida (gilles_honda_v12) พยายามแซง Carrazza (CRT-Didico15) และขึ้นนำไปอยู่ในอันดับที่ 2 ได้สำเร็จ โดยมี Yamanaka (yamado_racing38) จี้ตามหลังทั้งคู่มาติดๆ

ในการวิ่งรอบที่ 5 นั้น โชคร้ายที่ Yoshida (gilles_honda_v12) เกิดไปชนเข้ากับราวกั้น ทั้ง Carrazza (CRT-Didico15) และ Yamanaka (yamado_racing38) ต่างก็ฉวยโอกาสนี้ขยับขึ้นไปอยู่อันดับที่ 2 และ 3 ตามลำดับ

อย่างไรก็ตาม สำหรับ Fraga (IOF_RACING17) แล้ว ณ ตอนนี้เขาลอยลำคว้าชัยไปครองได้อย่างแน่นอน ด้วยระยะห่างจากกลุ่มที่ไล่ตามมาอย่างมาก

ในการวิ่งรอบที่ 6 Cody Nikola Latkovski (Nik_Makozi) จากออสเตรเลีย ฉวยโอกาสที่ท้ายรถ 996 GT3 ของ Mikail Hizal (TRL_LIGHTNING) เกิดสะบัด จนสามารถแซงหน้าเขาไปได้ และทำให้รถ McLaren F1 ของตนขึ้นไปอยู่อันดับที่ 4
Hizal (TRL_LIGHTNING) ก็ถูกแซงหน้าไปได้โดยรถ Diablo GT ของ Coque López (Williams_Coque14) และในท้ายที่สุดก็ตกลงมาอยู่อันดับ 7

การแข่งขันเข้าสู่การวิ่งรอบสุดท้าย Latkovski (Nik_Makozi) ตัดสินใจทุ่มสุดตัวและไล่จี้ท้ายของ Yoshida (gilles_honda_v12) ไปติดๆ
เขาทำให้หน้ารถของตนยื่นนำไปได้ในรอบที่ 11 แต่เกิดอาการดื้อโค้ง จนเป็นผลให้ Yoshida (gilles_honda_v12) ยึดอันดับเดิมกลับคืนมาได้ Latkovski (Nik_Makozi) มีโอกาสอีกครั้งในช่วงโค้งสุดท้าย และคราวนี้ก็ไม่มีการทำพลาดซ้ำสอง โดยแซงผ่านจากด้านในไปและแย่งอันดับที่ 4 มาได้สำเร็จ

แม้จะมีเพียงเวลาสั้นๆ ในการฝึกซ้อมกับสนามแข่งที่ไม่คุ้น Fraga (IOF_RACING17) ก็สามารถใช้ประโยชน์จากตำแหน่งโพลโพสิชั่นของตนเองได้อย่างคุ้มค่าเพื่อคว้าชัยชนะของการแข่งที่ 1 มาครอง
เพื่อนร่วมชาติของเขาอย่าง Carrazza (CRT-Didico15) ก็คว้าอันดับที่ 2 ได้โดยมี Yamanaka (yamado_racing38) ตามมาในอันดับที่ 3 และรับส่วนแบ่งคะแนนไปด้วย