โหมด Sport

การคัดเลือกออนไลน์รอบที่ 4 ของ TOYOTA GAZOO Racing GT Cup 2023 จะเริ่มในวันที่ 25 มิถุนายน!

การคัดเลือกออนไลน์รอบที่ 4 ของ TOYOTA GAZOO Racing GT Cup 2023 จะจัดขึ้นในวันที่ 25 มิถุนายน

รอบนี้จะมีรถและสนามต่างๆ ผสมกันดังต่อไปนี้

รถยนต์ Virtual GR86/BRZ Cup
สนามแข่ง ออโตโพลิส

ผู้เล่นทุกท่านที่เข้าแข่งรอบนี้จะได้รับ GR010 Hybrid พร้อมด้วยลวดลายตกแต่งของปี 2023 ไปใช้ในเกมฟรีๆ

หวังว่าจะได้พบทุกท่านบนสนามแข่งนะ

ตารางเวลาการแข่ง (อาจแตกต่างไปตามภูมิภาคและลีกของคุณ)

ภูมิภาค ลีก ตารางเวลาการแข่ง
เอเชีย GT1 19.00 น., 21.00 น., 23.00 น. (JST/KST) / 18.00 น., 20.00 น., 22.00 น. (CST) / 17.00 น., 19.00 น., 21.00 น. (ICT)
GT2 และ GT3 11.00 น., 12.00 น., 13.00 น., 14.00 น., 15.00 น., 19.00 น., 20.00 น., 21.00 น., 22.00 น., 23.00 น. (JST/KST) /
10.00 น., 11.00 น., 12.00 น., 13.00 น., 14.00 น., 18.00 น., 19.00 น., 20.00 น., 21.00 น., 22.00 น. (CST) /
9.00 น., 10.00 น., 11.00 น., 12.00 น., 13.00 น., 17.00 น., 18.00 น., 19.00 น., 20.00 น., 21.00 น. (ICT)
โอเชียเนีย GT1 16.00 น., 18.00 น., 20.00 น. (AEST) / 18.00 น., 20.00 น., 22.00 น. (NZST)
GT2 และ GT3 11.00 น., 12.00 น., 13.00 น., 14.00 น., 15.00 น., 16.00 น., 17.00 น., 18.00 น., 19.00 น., 20.00 น. (AEST) /
13.00 น., 14.00 น., 15.00 น., 16.00 น., 17.00 น., 18.00 น., 19.00 น., 20.00 น., 21.00 น., 22.00 น. (NZST)
ยุโรป/ตะวันออกกลาง/แอฟริกา GT1 14.00 น., 16.00 น., 18.00 น. (UTC)
GT2 และ GT3 8.00 น., 9.00 น., 10.00 น., 11.00 น., 12.00 น., 14.00 น., 15.00 น., 16.00 น., 17.00 น., 18.00 น. (UTC)
อเมริกาเหนือ GT1 16.00 น., 18.00 น., 20.00 น. (PDT)
GT2 และ GT3 9.00 น., 10.00 น., 11.00 น., 12.00 น., 13.00 น., 16.00 น., 17.00 น., 18.00 น., 19.00 น., 20.00 น. (PDT)
อเมริกากลางและใต้ GT1 18.00 น., 20.00 น., 22.00 น. (BRT) / 16.00 น., 18.00 น., 20.00 น. (CDT)
GT2 และ GT3 11.00 น., 12.00 น., 13.00 น., 14.00 น., 15.00 น., 18.00 น., 19.00 น., 20.00 น., 21.00 น., 22.00 น. (BRT) /
9.00 น., 10.00 น., 11.00 น., 12.00 น., 13.00 น., 16.00 น., 17.00 น., 18.00 น., 19.00 น., 20.00 น. (CDT)

ผู้เล่นต้องเข้าอีเวนต์ก่อนเริ่ม 15 นาที

ดูรายละเอียดเกี่ยวกับการแข่งขันและการแข่งชิงแชมป์อื่นๆ ทั้งหมดของเราได้ในหน้าโหมด "Sport" ของส่วน GT7: https://www.gran-turismo.com/world/gt7/sportmode/

แนะนำรถที่เป็นไฮไลต์

Toyota GR86 RZ '21

เครื่องยนต์ที่ใหญ่แต่มีคอนเซปต์เบื้องหลังเหมือนเดิม นี่คือรถสปอร์ต FR น้ำหนักเบาที่เป็นตัวแทนของญี่ปุ่น

นับตั้งแต่เปิดตัวในปี 2012 รถ Toyota 86 ก็ได้จำหน่ายไปทั่วโลกกว่า 200,000 คัน ทำให้ประวัติศาสตร์ต้องจารึกไว้ว่าเป็นรถสปอร์ตคอมแพกต์เครื่องยนต์วางหน้า/ขับเคลื่อนล้อหลังซึ่งเป็นที่นิยมที่สุดตลอดกาล

หลังจาก 86 เปิดตัวไปได้ 9 ปี Toyota ก็เปิดตัว GR86 อันเป็นเวอร์ชันสมรรถนะสูงที่มีตรา Gazoo Racing (GR) ในขณะที่ยังคงคุณลักษณะของรถยนต์รุ่นออริจินัลอย่างตัวถังที่มีน้ำหนักเบาและการบังคับควบคุมที่เป็นเลิศเอาไว้ วิศวกรของ Toyota ก็ติดตั้งเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ให้ GR86 ด้วย โดยเครื่องยนต์ที่อยู่ใต้ฝากระโปรงก็คือเครื่องยนต์ 4 สูบนอนขนาด 2.4 ลิตรที่มาแทนรุ่น 2.0 ลิตร และมาพร้อมกับขุมพลังอันน่าประทับใจที่สร้างกำลังขับได้ 231.8 แรงม้า/7,000 รอบต่อนาที มีแรงบิดสูงสุดที่ 25.5 กก.แรง-เมตร/3,700 รอบต่อนาที นำมาซึ่งการเร่งความเร็วจาก 0-62.1 ไมล์ต่อช่วโมง ได้ใน 6.3 วินาที ซึ่งเป็นการปรับปรุงอย่างก้าวกระโดดเหนือที่เคยทำไว้ 7.4 วินาทีในโมเดลเจเนอเรชันแรก

และเพื่อเสริมประสิทธิภาพให้การบังคับควบคุมของ 86 วิศวกรแชสซีของบริษัทจึงได้เสริมความแข็งแกร่งให้ตัวถังและใช้อะลูมิเนียมในแผงหลังคาเพื่อให้มีจุดศูนย์ถ่วงแรงดึงดูดที่ต่ำลง รวมทั้งลดน้ำหนักรถโดยรวมด้วย GR86 จาก Toyota ทำให้ผู้คลั่งไคล้รถสปอร์ตได้สัมผัสในสิ่งที่เคยคาดหวังว่าจะเกิดขึ้นกับ 86 นั่นก็คือ รุ่นที่เร็วกว่า ดุกว่า ออกแบบมาเพื่อลงสู่สนามแข่ง

Subaru BRZ S '21

รถสปอร์ตเล็ก FR เจนสองกับเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 2.4 ลิตร

การร่วมมือกันระหว่าง Subaru กับ Toyota ให้ผลเป็นรถสปอร์ตเครื่องยนต์บ็อกเซอร์วางขับเคลื่อนล้อหลัง Subaru BRZ และ Toyota 86 ในปี 2020 รถน้องสาวทั้งสองคันนี้ก็ได้รับการปรับโฉมใหม่ให้เป็นเจเนอเรชันที่สอง (ZD8)

ในการนี้ ก็ได้นำแพลตฟอร์มใหม่ที่พัฒนามาจากโมเดลดั้งเดิมในช่วงปลาย ๆ มาใช้โดยมีการใส่โครงสร้างเฟรมภายในของ Subaru ในทั้งแชสซี ซึ่งทำให้ทนทานเป็นพิเศษและลดน้ำหนักลงด้วย การผสมผสานเครื่องยนต์บ็อกเซอร์ 4 สูบแบบดั้งเดิมของ Subaru เข้ากับเครื่องยนต์ไดเร็กต์อินเจ็กชั่นของ Toyota ก็ถูกนำมาใช้ในโมเดลใหม่ด้วย การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญที่สุดคือกระบอกลูกสูบมีขนาดใหญ่ขึ้น ทำให้ความจุเครื่องยนต์เพิ่มขึ้นจาก 2 เป็น 2.4 ลิตร กำลังของรถจึงเพิ่มขึ้นเป็น 173 กิโลวัตต์ (231.8 แรงม้า)/250 นิวตันเมตร (249.9 นิวตันเมตร) ทำให้ความสามารถในการขับขี่ดีขึ้นในทุกสภาพ ระบบเกียร์จะมีทั้งแบบธรรมดา 6 สปีดและอัตโนมัติ 6 สปีด โดยแบบอัตโนมัติจะมีระบบช่วยเหลือผู้ขับ EyeSight เป็นอุปกรณ์มาตรฐาน

โมเดลที่เห็นอยู่นี้คือเกรด "S" เป็นโมเดลหรูไฮเอนด์ที่มีอุปกรณ์ทั้งภายในและภายนอกดีขึ้น เช่น ล้อ 18 นิ้ว, เบาะนั่งที่เป็นหนังนิ่มและหนังระดับดีเยี่ยม รวมทั้งระบบสเตอริโอติดรถยนต์ 8 ลำโพงด้วย