Please select your country / region

กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น (11 กรกฎาคม 2021) – FIA Certified Gran Turismo Championship ประจำปี 2021 เริ่มขึ้นด้วยการเริ่มต้นอย่างน่าตื่นเต้นเมื่อเดือนที่แล้ว โดย Valerio Gallo จากอิตาลีชิงเอาการแข่งแรกไปจาก Patrik Blazsán จากฮังการีด้วยชัยชนะที่ต้องตัดสินด้วยภาพถ่ายสุดระทึก และในปีนี้ นักแข่งอิตาลีผู้ทำผลงานได้ดีอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ก็ได้คว้าชัยในอีเวนต์มอเตอร์สปอร์ต Olympic Virtual Series เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ไปเมื่อเดือนที่แล้วด้วย ส่วนรอบที่ 2 นักแข่ง 14 รายเดิมจากรอบที่แล้วจะมารวมตัวทางไกลจากทั่วโลกในสนามแข่งอันเป็นประวัติศาสตร์อย่าง WeatherTech Raceway ลากูน่า เซก้า ในแคลิฟอร์เนียเหนือ เพื่อดับแสงอันเจิดจ้าของ Gallo และช่วงชิงโอกาสเข้าสู่การชิงชัยใน World Series ในเดือนสิงหาคม

สำหรับปี 2021 นี้มีการนำรูปแบบใหม่มาใช้ ซึ่งจะแบ่งปีปฏิทินออกเป็นสองฤดูกาล คือ ฤดูกาลที่ 1 จะประกอบด้วยรอบที่ 1 และ 2 (จัดขึ้นในเดือนมิถุนายนและกรกฎาคมตามลำดับ) และปิดท้ายด้วยอีเวนต์ใหม่ที่มีชื่อว่าการชิงชัยใน World Series ซึ่งเหล่าผู้แข่งขันที่เก่งกาจที่สุดจากรายการแข่งออนไลน์มีโอกาสชิงการขึ้นนำเป็นจ่าฝูง และจากนั้นก็คือฤดูกาลที่ 2 ซึ่งมีรอบที่ 3 และ 4 ก็จะจัดขึ้นในเดือนตุลาคมและพฤศจิกายนตามลำดับ และจะไปสิ้นสุดด้วยรอบ World Finals ซึ่งจะจัดขึ้นในเดือนธันวาคม รูปแบบนี้จะทำให้ความกดดันไปตกอยู่กับผู้เล่นที่ต้องตกระกำลำบากหากทำผลงานได้ไม่ดี

รอบที่ 2: WeatherTech Raceway ลากูน่า เซก้า

ณ จุดสตาร์ทในการแข่งขันรอบที่สองของฤดูกาล Tomoyuki Yamanaka (yamado_racing38) จากญี่ปุ่นคืนฟอร์มด้วยการออกตัวในตำแหน่งโพลโพซิชั่น และมีตัวเก็งอย่าง Valerio Gallo จาก (Williams_Bracer) เข้าร่วมในแถวหน้า ผู้เข้ารอบมาเร็วที่สุดคนถัดไปก็คือ Baptiste Beauvois จากฝรั่งเศส (R8G_TSUTSU) ตามมาด้วย Luca Bonelli จาก Brazil (TGT_BONELLI) และ Ryota Kokubun จากญี่ปุ่น (Akagi_1942mi) นักแข่งทั้ง 14 คนต่างคาดเข็มขัดรัดตัวเองอยู่ในรถที่มีน้ำหนักเบามากอย่าง KTM X-Bow R พวกเขาต้องวิ่ง 20 รอบสนาม โดยต้องใช้ยางเนื้ออ่อนและปานกลางลงสนามให้ครบอย่างน้อยชุดละหนึ่งรอบ ซึ่งนี่ทำให้กลยุทธ์ในการเข้าพิตมีส่วนสำคัญในการแข่งขัน และที่น่าสนใจก็คือ รถหกอันดับแรก ณ จุดสตาร์ทต่างเลือกออกตัวด้วยยางเนื้ออ่อนของ Michelins

ณ ตอนเริ่มต้น Gallo ทะยานออกมาอย่างกับจรวด แซง Yamanaka ที่จุดออกตัว และนำฝูงเข้าสู่โค้งที่ 2 ซึ่งเป็นโค้งแฮร์พิน ในขณะเดียวกัน Takuma Miyazono จากญี่ปุ่น (Kerokkuma_ej20) ผู้ต้องป้องกันตำแหน่งแชมป์ ก็ถูก Bonelli เบียดชิงที่ 5 รถแข่งเครื่องยนต์กลาง/ขับเคลื่อนล้อหลังเปลี่ยนมาอยู่ในรูปแบบการวิ่งเรียงกันเป็นแถวเดียวเมื่อมาถึงโค้งที่ 8 ซึ่งเป็นโค้ง Corkscrew โดยมี Gallo เป็นผู้นำขบวน อันดับในการแข่งขันยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปอีกหลายรอบสนาม โดยที่หกอันดับแรกห่างกันเพียงสองวินาทีเท่านั้น

เหตุการณ์อันน่าจดจำเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในตอนสิ้นสุดรอบสนามที่ 7 เมื่อผู้นำในการแข่งขันอย่าง Gallo เข้าพิต ซึ่งดูจะเร็วเกินไปเพราะยางเนื้ออ่อนของเขานั้นยังวิ่งได้อีกอย่างน้อยสามรอบสนาม เขากำลังใช้กลยุทธ์ใหม่อะไรหรือเปล่า? เวลาเท่านั้นที่จะเป็นตัวตัดสิน ตราบที่ผู้นำคนอื่นยังอยู่นอกพิต Gallo กลับเข้าสู่สนามในอันดับที่ 11 ตามหลังผู้นำคนใหม่อย่าง Yamanaka มากกว่า 30 วินาที จากนั้นรอบสนามที่ 9 ก็กลายเป็นเจ้าภาพให้การเข้าพิต นักแข่งส่วนใหญ่เปลี่ยนจากยางเนื้อกลางมาเป็นเนื้ออ่อน ด้วยหวังว่าจะสามารถไล่ตามเหล่าจ่าฝูงทันในครึ่งหลังของการแข่ง นั่นทำให้ Gallo ขยับขึ้นไปอยู่ที่ 5 และ Kokubun ผู้ที่เข้าพิตเร็วเช่นกันอยู่ที่ 6

Beauvois เข้าพิตในรอบสนามต่อมา ทำให้ Gallo ขยับขึ้นไปอยู่ที่ 3 ขณะที่ผู้นำในการแข่งขันอย่าง Yamanaka เข้าพิตในอีกรอบสนามหนึ่ง นักแข่งชาวอิตาลีชิงการนำคืนมาได้หลังจากรถของเขาเข้าสู่สนามอีกครั้ง กลายเป็นว่ากลยุทธ์การเข้าพิตแต่เนิ่นๆ ของเขาให้ผลแล้ว ไกลออกไปในสนาม Patrik Blazsán จากฮังการี (Fuvaros8) ที่ออกสตาร์ทในอันดับ 8 ด้วยยางเนื้อปานกลาง ก็ขึ้นแซง Lewis Hamilton ที่อยู่ด้านใน เป็นการปิดช่องว่างสู่กลุ่มหน้าที่ออกตัวด้วยยางเนื้ออ่อน แต่ตอนนี้ใช้ยางเนื้อปานกลางที่ช้ากว่าไปจนถึงเส้นชัย นักแข่งชาวฮังการีไล่ตาม Miyazono ซึ่งอยู่ที่ 6 ทันด้วยความเร็วประมาณหนึ่งวินาทีต่อรอบสนาม

เหลืออีกห้ารอบสนาม Yamanaka จ่อท้าย KTM X-Bow ของ Gallo ซึ่งลดความเร็วลงอย่างมาก ทันใดนั้น Beauvois ก็เข้ามาอย่างไม่ทันตั้งตัว ขึ้นแซง Yamanaka ผ่านโค้งที่ 5 แต่นักแข่งชาวญี่ปุ่นก็แซงคืนได้ทันทีในโค้งถัดไป และขณะที่ทุกอย่างเกิดขึ้นนั้น Blazsán ที่ใช้ยางเนื้ออ่อน ก็ท้าทายคนอื่นอย่างต่อเนื่องด้วยการแซง Miyazono และ Kokubun ขึ้นมาเป็นที่ 5 คนต่อไปที่อยู่เบื้องหน้าเขาแล้วก็คือ Bonelli และ Beauvois ที่นำห่างไปเพียงครึ่งวินาทีเท่านั้น

เมื่อรอบสนามที่ 17 เริ่มขึ้น ยางของ Gallo ก็สึกหมดแล้ว ทำให้ Yamanaka แซงขึ้นนำเป็นจ่าฝูงได้อย่างง่ายดาย Gallo ยังคงตกอันดับต่อไปเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ร่วงไปอยู่อันดับสุดท้าย ตอนนี้ Blazsán อยู่ในอันดับที่ 3 เป็นหนึ่งเดียวในยางเนื้ออ่อนท่ามกลางเหล่าผู้นำของการแข่งขัน ตอนนี้เหลืออีกสามรอบสนามแล้ว และ Yamanaka ก็ห่างจากผู้นำในการแข่งขันเพียงสองวินาทีเท่านั้น อยู่ดีๆ เขาก็อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม
อย่างยิ่งในการเป็นเจ้าการแข่งขันครั้งนี้ นักแข่งอีกคนที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างสำคัญในช่วงท้ายก็คือ Adriano Carrazza (KoA_Didico15) จากบราซิล ที่ออกตัวในอันดับที่ 12 และขยับขึ้นไปจนถึงที่ 5 ด้วยการแซง Kokubun, Miyazono และ Gallo ไปภายในรอบสนามเดียว

ในรอบสนามที่ 18 นักแข่งชาวฮังการีผู้เร่งรีบก็ขยับขึ้นไปอยู่ที่ 2 อวดรถสีเขียวเข้มของเขาให้ Yamanaka ได้เห็นเต็มกระจกมองหลัง Blazsán ลงมือในโค้งสุดท้ายของรอบสนามที่ 19 ขึ้นแซง Yamanaka สู่ทางตรงด้านหน้าเพื่อคว้าอันดับที่ 1 เขาพุ่งไปไม่เหลียวหลัง ขึ้นนำตลอดทางจนเข้าเส้นชัยโดยมี Yamanaka ตามมาติดๆ Baptiste Beauvois เข้าเส้นชัยในอันดับที่ 3 ขณะที่ Adriano Carrazza พาอันดับที่ 4 กลับบ้านอย่างงดงาม

ชัยชนะของ Patrik Blazsán ทำให้เขาขึ้นนำด้วยคะแนน World Series รวมห้าคะแนน ตามมาด้วย Gallo ที่สามคะแนน และ Yamanaka สองคะแนน คะแนนทั้งหมดนั้นจะมีบทบาทสำคัญมากในตอนสิ้นปีเมื่อถูกนำไปคิดใน World Finals

รายการแข่งขัน Nations Cup ประจำปี 2021 - World Series รอบที่ 2
ผล