ศึกล้อชนล้อสุดร้อนแรงรอบขุมนรกสีเขียว

กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น (14 สิงหาคม 2021) ในฐานะรอบสุดท้ายก่อน World Finals งานนี้ FIA Certified Gran Turismo Championships ปี 2021 รอบที่ 4 เต็มไปด้วยแอ็กชันอันร้อนแรงและดราม่าบีบหัวใจที่เราหวังจะได้จากรายการแข่งที่ให้ความบันเทิงสูงอย่าง World Series สำหรับรอบนี้ สถานที่จัดการแข่งขันก็คือเนือร์บูร์กริง นอร์ดชไลเฟอ ในตำนาน ซึ่งเป็นสนามแข่งความยาว เนือร์บูร์กริง นอร์ดชไลเฟอ ซึ่งเป็นสนามแข่งยาว 20.8 กิโลเมตร ตั้งอยู่ในป่าใกล้เมืองเนือร์บูร์ก ประเทศเยอรมนี สนามแข่งแห่งนี้คือถิ่นกำเนิดของการแข่งมาราธอนเนือร์บูร์กริง 24 ชั่วโมง แถมยังเป็นสถานที่ทดสอบสำคัญของเหล่าผู้ผลิตของโลก ที่ใช้วัดขีดจำกัดรถสปอร์ตและรถแข่งของพวกเขา

ระหว่างที่ทีม Mazda นำคู่แข่งทั้ง 12 ทีมอยู่หลังรอบที่ 3 Toyota กับ Peugeot ก็ไล่จี้มาติดๆ ทีม Toyota หวังเข้าแข่งขันเพื่อชิงแชมป์ Manufacturer Series ที่เคยได้เมื่อปี 2019 คืนมาใน Word Finals ครั้งสำคัญเดือนหน้า ขณะเดียวกัน ทีม Peugeot นั้น นี่เป็นเรื่องของการส่งท้ายปี 2021 อย่างมีสไตล์หลังจากพลาดในการคัดเลือกสู่รอบ World Finals ผ่านรายการแข่งออนไลน์ นอกจากนี้ สายตาทุกคู่ยังจับจ้องไปยัง Porsche ที่ชนะไปอย่างพลิกความคาดหมายในรอบที่แล้วด้วย

รอบที่ 4: เนือร์บูร์กริง นอร์ดชไลเฟอ

เนื่องจากหนึ่งรอบสนามของเนือร์บูร์กริง นอร์ดชไลเฟอนั้นยาวกว่าสนามแข่งปกติอย่างเห็นได้ชัด การแข่งขันนี้จึงมีแค่สี่รอบสนามเท่านั้น Igor Fraga จากบราซิล (IOF_RACING17) คว้าตำแหน่งโพลโพซิชันไปได้ด้วยเวลาอันน่าทึ่งที่ 6’57.859” รอบสนามที่มีความยาวประมาณ 20.8 กิโลเมตร (12.9 ไมล์) ใน Toyota 86 Gr.4 โดยเฉือน Ryota Kokubun จากญี่ปุ่น (Akagi_1942mi) ที่อยู่ใน Mazda Atenza Gr.4 ไป 0.1 วินาที อันดับที่ 3 กับ 4 เป็นของ Yuhki Araki จากญี่ปุ่น (DW-yuhki02) ใน Dodge Viper แบะ Jose Serrano จากสเปน (PR1_JOSETE) ใน Porsche Cayman GT4 Clubsport แต่น่าเสียดายที่ทีมการแข่งขันของ Aston Martin จบลงก่อนที่จะเริ่มเสียอีก เพราะ Alonso Regalado จากเปรูประสบปัญหาเรื่องการเชื่อมต่อ เลยทำให้เข้าร่วมไม่ได้

แม้การแข่งขันนี้จะไม่มีการบังคับให้ต้องเปลี่ยนตัวนักแข่ง แต่ผู้เล่นก็ต้องเข้าพิตอย่างน้อยหนึ่งครั้งเพื่อเปลี่ยนยางและเติมน้ำมัน

ทั้ง 86 ของ Fraga และ Atenza ของ Kokubun ก็เร่งความเร็วทิ้งไปอย่างหมดจดหลังการออกตัวจากจุดหยุดนิ่ง ทั้งคู่นำฝูงผ่านโค้ง 154 ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของนอร์ดชไลเฟอ แม้จะไม่มีความพยายามแซงกันอย่างเห็นได้ชัดในรอบสนามแรก แต่ Quinten Jehoul จากเบลเยียม (ERM_Quinten) ที่ลงแข่งให้ทีม Peugeot และอยู่อันดับที่ 2 ในการชิงแชมป์ ก็เสียการควบคุม RCZ Gr.4 จนหลุดจากสนามไปชนราวกั้น ทำให้ตกจากอันดับที่ 7 ไปเป็น 11 ในพริบตา แม้บางคนต้องลุ้นว่าจะถูกแซง ซึ่งรวมถึง Serrano กับ Porsche Cayman 2020 ของเขา และแชมป์ Nations Cup อย่าง Takuma Miyazono จากญี่ปุ่น (Kerokkuma_ej20) กับ Subaru WRX ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 4 และ 5 ตามลำดับ แต่นักแข่งส่วนใหญ่จะให้ความสำคัญกับการรักษาตำแหน่งไว้มากกว่า อย่างน้อยก็ในตอนนี้

เมื่อรอบสนามที่สองมาได้ครึ่งทาง Toyota 86 ของ Fraga ก็เริ่มทิ้งช่วง นำห่างรถอันดับที่ 2 อยู่สองวินาที ขณะเดียวกัน สองนักแข่งชาวญี่ปุ่นก็กำลังดวลเดือดกันอยู่หลังเขา Viper ของ Araki ไล่กวด Atenza ของ Kokubun ตลอดครึ่งแรกของรอบสนามนี้ และ ณ กิโลเมตรที่ 12 ในส่วนก่อนจะถึงโค้งม้าหมุนอันเลื่องชื่อ Araki ก็ตัดสินใจเข้าวงในอย่างชาญฉลาด ทำให้ขึ้นแซง Mazda ไปเป็นที่ 2 ได้

เมื่อทุกคันแข่งกันเข้าสู่ตอนจบของรอบสนามที่ 2 ด้วยความเร็ว 260 กม./ชม. ที่ทางตรง กลุ่มจ่าฝูงส่วนใหญ่ก็เข้าพิต อย่างไรก็ตาม ซึ่งเป็นผู้นำและ ซึ่งอยู่อันดับ 4 ยังวิ่งต่อไป ด้วยหวังจะสร้างความได้เปรียบด้วยยาง Michelin เนื้อแข็งที่สึกแล้ว เมื่อมาถึงครึ่งทางของการแข่งขัน Fraga นำมาโดยมี Serrano อยู่อันดับที่ 2 และ Miyazono อยู่อันดับ 3 แต่ทั้งสามคนยังคงต้องเข้าพิตอยู่ ส่วนในบรรดาผู้ที่เข้าพิตไปแล้วนั้น Kokubun นำอยู่ ณ อันดับที่ 6 แท็กติกการวิ่งประหยัดน้ำมันอย่างชาญฉลาดทำให้เขาสามารถเติมน้ำมันน้อยกว่าคู่แข่งที่อยู่ใกล้ที่สุดอย่าง Araki ในอันดับที่ 7 ถึง 11 ลิตร และการเข้าพิตสั้นๆ ก็ทำให้เขานำเพื่อนร่วมชาติอยู่ห้าวินาที

เมื่อจบรอบสนามที่ 3 Fraga, Serrano และ Miyazono ก็เข้าพิต คำถามคือ เมื่อกลับสู่สนามแล้วพวกเขาจะอยู่ตรงไหนกัน? Fraga เข้าออกพิตว่องไวดุจสายฟ้าและพาตัวเองกลับไปนำในสนามได้ ขณะที่ Serrano ซึ่งเข้าออกพิตอย่างสวยงามเช่นกันก็กลับเข้าสนามไปอยู่อันดับที่ 2 โดยอยู่หน้า Mazda Atenza ของ Kokubun ที่กำลังทะยานมาอย่างหนักหน่วง

เมื่อเข้าสู่รอบสนามสุดท้าย ก็ถึงช่วงเวลาที่จะมาเงื้อง่าราคาแพงอยู่ไม่ได้ ความระแวดระวังใดๆ ล้วนถูกนักแข่งทุกคนปาปลิวไปในสายลม ก่อนอื่นก็ Dodge Viper ของ Araki ที่ประชิดแซง Subaru WRX ของ Miyazono ไป ในขระที่ Kokubun ก็พยายามจะพา Mazda ของเขาแซง Porsche ของ Serrano Araki แซง Miyazono ไป ณ กิโลเมตรที่ 11 เพื่อขึ้นเป็นอันดับ 4 ส่วน Kokubun นั้นยังคอยหาจังหวะขึ้นแซงอยู่ในสลิปสตรีมของ Porsche ด้วยความอดทน และจังหวะนั้นก็มาถึงในกิโลเมตรที่ 20 ณ จุดสิ้นสุดของทางตรงยาวก่อนจะถึงธงตาหมากรุกพอดีเป๊ะ หลังจากแซง Porsche ของ Serrano ได้แล้ว Ryota Kokubun ก็ล่องเข้าเส้นชัยไปเป็นที่ 2 คว้าสองคะแนนอันมีค่าให้ Mazda ไป และทำให้บริษัทผู้ผลิตสัญชาติญี่ปุ่นยังอยู่ในตำแหน่งผู้นำการแข่งขันสู่ World Finals ชัยชนะอันงดงามของ Igor Fraga ทำให้ Toyota เคียงคู่กับ Mazda อยู่ที่อันดับสูงสุดของตารางคะแนน ส่วน Jose Serrano ที่เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 3 ทำให้ Porsche ได้อยู่ในอันดับที่ 5 และแม้ Peugeot กับ Subaru จะไม่ได้คะแนนไปในรอบที่ 4 แต่พวกเขาก็เสมอกันอยู่ที่อันดับ 3 ของตาราง

ทั้งที่ต้องเอาตัวรอดอย่างสุดความสามารถจากความผิดพลาดเล็กๆ ในรอบสุดท้ายที่ทำเอาเกือบได้เห็นรถหมุน Igor Fraga ผู้จบเกมโดยคว้าไปทั้งตำแหน่งโพลโพซิชัน ทำเวลารอบสนามเร็วสุด แถมยังชนะการแข่ง ก็ให้ความเห็นอย่างดีใจว่า “สำหรับการแข่งรอบที่แล้ว ผมไม่โอเคกับยางสึก แต่คราวนี้ แผนทั้งหมดทำให้ผมมีความสุขมากครับ ตอนเริ่มผมกังวลเรื่องน้ำมันนิดหน่อย เพราะรถคันอื่นๆ เพราะรถคันอื่นใช้ลมส่งท้ายผม เลยทำให้ผมกันไม่ให้พวกเขามาอยู่ในสลิปสตรีมยากขึ้นไปอีก เลยกลายเป็นว่าผมต้องใช้น้ำมันมากกว่าที่คิดนิดหน่อยครับ แต่สุดท้ายก็ออกมาดี และผมก็ดีใจครับที่ได้ที่ 1”

Manufacturer Series ประจำปี 2021 - World Series รอบที่ 4
ผล

อันดับ	ผู้ผลิต / นักแข่ง	เวลา
1	Toyota Igor Fraga	28:35.115
2	Mazda Ryota Kokubun	+ 04.489
3	Porsche Jose Serrano	+ 04.642
4	Dodge Yuhki Araki	+ 09.669
5	Subaru Takuma Miyazono	+ 11.617
6	Honda Shohei Sugimori	+ 12.647
7	Mercedes-Benz Baptiste Beauvois	+ 12.916
8	Jaguar Ádám Tápai	+ 23.348
9	Peugeot Quinten Jehoul	+ 23.906
10	Volkswagen Hiroshi Okumoto	+ 24.268
11	Nissan Mario Straka	+ 31.785
12	Aston Martin Alonso Regalado	DNS