ใน "State of Play’" ตอนล่าสุดเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ Sony Interactive Entertainment ได้เผยข้อมูลภาพรวมของ "แกรนทัวริสโม 7" ที่กำลังจะวางจำหน่ายออกมาอย่างมากมาย

หลังจากแกรนทัวริสโมภาคแรกออกมาได้ 25 ปี และเกมเกมนี้ก็เป็นที่จักไปทั่วโลกด้วยความรักที่มีให้รถและความเคารพในวัฒนธรรมยานยนต์ บัดนี้ GT7 ที่เป็นดังจุดสูงสุดแห่งวิวัฒนาการของซีรีส์ ก็กำลังจะวางจำหน่ายในวันที่ 4 มีนาคมแล้ว

ดังนั้น เราจึงเชิญผู้เล่นของเรามาส่องโลกของ GT7 ที่ยามาอุจิ คาซุโนริ ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ของซีรีส์ มาเปิดเผยให้ดูด้วยตัวเอง

ต่อไปนี้คือข้อมูลภาพรวมว่า "State of Play" ได้เปิดเผยอะไรให้ดูกันไปบ้าง

รถยนต์กว่า 400 คันจากกว่า 60 แบรนด์ทั่วโลก

เป็นดีเอ็นเอของซีรีส์นี้มาตลอดก็คือการได้ขับรถจำนวนมากที่คัดสรรมา ตั้งแต่โมเดลที่ผลิตขายมากมายในตลาดไปจนถึงรถหายากระดับตำนาน และ GT7 เองก็ไม่ใช่ข้อยกเว้น ในบทล่าสุดนี้มีรถยนต์กว่า 400 คันจากกว่า 60 แบรนด์ทั่วโลก และก็จะมีมาเพิ่มอีกเรื่อยๆ ในอัปเดตต่อๆ ไป

สนามแข่งจาก 34 ที่พร้อมผังสนาม 97 แบบ

สนามแข่งที่มาเป็นเวทีให้การแข่งขันมีทั้งสนามสนามที่มีอยู่จริงและที่เป็นสนามออริจินัลของเกมโดยเฉพาะ จะพาผู้เล่นไปยังสถานที่ต่างๆ ถึง 34 แห่งและผังต่างๆ ที่แตกต่างกันถึง 97 แบบ นอกจากนี้ สนามแข่งสุดคลาสสิกของซีรีส์อย่าง "ไทรอัล เมาน์เทน", "ดีป ฟอเรสต์" และ "ไฮสปีด ริง" ก็กลับมาด้วย โดยได้รับการอัปเดตให้ทันสมัยสมเทคโนโลยีในปัจจุบัน และก็เช่นเดียวกับรถยนต์ทั้งหลาย คือ ในอัปเดตต่อๆ ไปก็มีแผนที่จะเพิ่มสนามแข่งต่างๆ เข้ามาอีกด้วย

ตื่นเต้นไปรีสอร์ทธีมรถยนต์

GT7 พาแผนที่โลกที่แฟนๆ ชื่นชอบกลับมาสู่ซีรีส์ด้วย โดยคราวนี้จะอยู่ในรูปของรีสอร์ทที่ผู้เล่นจะได้เพลิดเพลินกับชีวิตติดรถของตัวเอง แถมยังทำหน้าที่เป็นเมนูให้เข้าถึงฟีเจอร์ต่างๆ ของเกมได้โดยตรงด้วย สิ่งแรกที่ผู้เล่นจะได้ทำในโลกใบใหม่นี้ก็คือใช้เครดิตที่ได้มาในทีแรกไปซื้อรถขนาดเล็ก จากจุดเริ่มต้นนั้น พวกเขาก็จะได้ไปแข่งขันในอีกหลายรายการ ดังนั้น ผู้เล่นก็จะได้เปลี่ยนไปใช้รถที่เร็วขึ้นซึ่งได้เป็นรางวัลจากรายการเหล่านั้นด้วย หรือไม่อย่างนั้น ก็จะได้แต่งหรืออัปเกรดรถคันเก่าให้เร็วขึ้นเมื่อเกมมีความคืบหน้าไป นอกจากนี้ การใช้ "โรงรถ" เป็นฐานหลักในการเก็บรถและเพื่อแต่งรถจะทำให้ผู้เล่นได้ไปผจญภัยในรีสอร์ทรถเพื่อค้นพบโลกของรถยนต์ด้วย

คาเฟ่คือสถานที่แห่งการค้นพบประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมรถยนต์

เมื่อไปที่ "คาเฟ่" แล้วผู้เล่นจะได้รับ "หนังสือเมนู" มา ในนั้นจะมีเควสต์มากมายที่นำผู้เล่นไปสู่สถานที่ต่างๆ ในรีสอร์ทรถ หนังสือเมนูที่ว่านี้คือศูนย์กลางประสบการณ์ใน "GT7" โดยจะทำหน้าที่ช่วยเหลือผู้เล่นในเรื่องการสะสมรถ ซึ่งหลังจากทำตามเมนูต่างๆ ในเล่มครบแล้ว ผู้เล่นสามารถฟังคำอธิบายที่รวบรวมไว้สำหรับรถคันใหม่ที่ได้มาได้ และทำได้ถึงขั้นที่ว่า ถ้านักออกแบบที่มีส่วนในการสร้างสรรค์รถคันนั้นอยู่แถวนั้นพอดี ก็จะได้พบกับพวกเขาด้วย และนั่นก็เพราะตัวเกมนั้นออกแบบมาเพื่อให้ผู้เล่นที่ทำตามเมนูต่างๆ ในหนังสือเมนูครบแล้วได้สัมผัสกับประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่อยู่เบื้องหลังรถแต่ละคันอย่างเป็นธรรมชาติ

ดีลเลอร์รถยนต์

ผู้เล่นซื้อรถในเกมได้จากดีลเลอร์รถยนต์ ใน GT7 ผู้เล่นจะได้คืบหน้าในเกมผ่านการทำตามวัตถุประสงค์ต่างๆ ขอดีลเลอร์ทั้งสามเจ้า ดีลเลอร์เจ้าหนึ่งก็คือ "Brand Central" ซึ่งจะมีรถใหม่ที่ผลิตตั้งแต่ปี 2001 เป็นต้นมา เจ้านี้มีรถทั้งหมดประมาณ 300 คัน และเมื่อเข้าไปในส่วน "พิพิธภัณฑ์" ของแต่ละแบรนด์ ผู้เล่นก็จะรู้จักความเป็นมาของแบรนด์เหล่านั้นเพิ่มเติม

สำหรับที่ "ดีลเลอร์รถมือสอง" นั้น ก็แน่นอนว่าผู้เล่นสามารถซื้อรถมือสองในราคาที่เหมาะสมกว่าไปซื้อคันใหม่ แต่ก็จะมีรถบางโมเดลอยู่เหมือนกันที่ราคาสูงกว่าตอนออกจำหน่ายครั้งแรกมาก เช่น รถสปอร์ตสัญชาติญี่ปุ่นยุคทศวรรษ 90 ทั้งนี้ ไลน์อัพรถมือสองมีแผนอยู่ว่าจะเปลี่ยนแปลงทุกวัน

ดีลเลอร์รถเจ้าสุดท้ายก็คือ "ดีลเลอร์รถในตำนาน" ที่จะมีรถชื่อดังหายากและทรงคุณค่าสทางประวัติศาสตร์

"เวิลด์เซอร์กิต" ศูนย์รวมสนามแข่งทั่วโลกให้เยี่ยมชมและแข่งขัน

"เวิลด์เซอร์กิต" คือที่ที่ผู้เล่นจะได้เข้าไปยังสนามแข่งแห่งต่างๆ ที่มีอยู่ใน GT7 ผู้เล่นจะได้เยี่ยมชมสนามแข่งต่างๆ และเข้าแข่งขันรวมทั้งแข่งชิงแชมป์กันที่นี่ และยังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้ได้ทำกันด้วย นอกจากนี้ ที่นี่จะมี "ประสบการณ์ในสนามแข่ง" ที่ให้ความสำคัญกับการทำความรู้จักทุกส่วนของสนาม และมี "การแข่งแบบกำหนดเอง" ที่กำหนดสภาพอากาศ, ช่วงเวลาของวัน, จำนวนแล็ป และรถของคู่แข่งได้อย่างอิสระ

ศูนย์ออกใบอนุญาต" และ "ภารกิจ

นอกจากการแข่งขันอันมากมายที่เป็นเหมือนแกนกลางของประสบการณ์แล้ว GT7 ก็ยังมีกิจกรรมสนุกๆ หลายกิจกรรมให้ได้ทำกันด้วย ตัวอย่างหนึ่งก็คือ "ศูนย์ออกใบอนุญาต" ซึ่งทำหน้าที่เป็นโรงเรียนสอนขับรถและเป็นโหมดเกมอันโด่งดังมาตั้งแต่ภาคแรก ผู้เล่นที่มาที่นี่จะได้ทำการทดสอบจับเวลาแบบสั้นๆ โดยมีเป้าหมายเพื่อขัดเกลาฝีมือตัวเองจนได้ระดับ "ทอง"

ส่วน "ภารกิจ" จะมีอีเวนต์มากมายหลายแบบซึ่งไม่เหมือนกับการแข่งหรือการทดสอบจับเวลาตามปกติ เมื่อมาที่นี่ ผู้เล่นจะได้ลองสัมผัส "การแข่งแดร็ก" ที่มีเป้าหมายคือเป็นผู้ที่เร็วที่สุดในการวิ่งทางตรง หรือ "การทดสอบดริฟต์" ที่จะได้สะสมคะแนนจากการโชว์ทักษะการดริฟต์

"มัลติเพลเยอร์" เพื่อความเพลิดในการแข่งขันกับครอบครัวและผองเพื่อน

แล้วก็มีฟีเจอร์มากมายให้ได้แข่งขันกับเพื่อนๆ กันอย่างสนุกสนานด้วย โดยมีโหมดแบ่งจอสำหรับ 2 ผู้เล่นให้ได้แข่งกับครอบครัวและเพื่อนๆ กันในห้องนั่งเล่น แล้วก็มี "ล็อบบี้" ที่สนุกกันออนไลน์ได้ รวมทั้ง "โหมด Sport" ที่จะเป็นการแข่งรถกันแบบจริงจัง และที่มีใหม่ในภาคนี้ก็คือ "จุดนัดพบ" ที่มีรูปแบบสบายๆ กว่าล็อบบี้

"ร้านแต่งรถ", "GT Auto" และ "เครื่องมือตกแต่ง" เพื่อเปลี่ยนรถคุณให้ไม่เหมือนใคร

"ร้านแต่งรถ" ซึ่งเป็นที่ที่คุณสามารถไปซื้อและติดตั้งชิ้นส่วนสมรรถนะสูงเพื่อเพิ่มสมรรถนะให้รถตัวเองนั้นได้กลับมาแล้วใน GT7 โดยรถแต่ละคันในเกมจะมีชิ้นส่วนให้แต่งกันได้มากกว่า 60 ชิ้นเลยทีเดียว

"GT Auto" เป็นที่ที่ใช้แต่งภายนอกรถให้เป็นสไตล์เฉพาะของคุณเอง รวมทั้งยังเป็นที่สำหรับบำรุงรักษาด้วยวิธีต่างๆ เช่น ล้างรถ หรือเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ที่นี่มีชิ้นส่วนที่มีคุณสมบัติด้านอากาศพลศาสตร์มากกว่า 650 ชิ้น มีล้อให้เลือกกว่า 130 แบบ และมีสีพ่นกว่า 1200 สีจากตัวอย่างสีที่มีให้ ที่นี่เลยเป็นที่ที่ทำให้คุณแต่งรถได้หลากหลายรูปแบบ และกับรถบางคันก็ติดตั้งโครงเหล็กหรือชุดตัวถังกว้างพร้อมโป่งซุ้มล้อใหญ่พิเศษได้ด้วย

"เครื่องมือตกแต่ง" ทำให้ผู้เล่นตกแต่งภายนอกรถได้อย่างอิสระ และฟีเจอร์นี้ใน GT7 ก็ได้รับการปรับปรุงให้ดีขึ้นด้วย ทำให้ผู้ออกแบบใช้สติกเกอร์ได้มากกว่าเคย และใช้ได้ในที่ที่เคยไม่ให้ใช้มาก่อนด้วย

"Scapes" กับ "ภาพถ่ายการแข่งขัน" ทำให้คุณได้เพลิดเพลินกับการถ่ายรูป

"Scapes" เป็นโหมดที่ทำให้ผู้เล่นได้เพลิดเพลินกับการพารถคันโปรดท่องเที่ยวไปรอบโลก ทั้งยังได้สัมผัสกับความละเอียดลออของโลกแห่งการถ่ายภาพ โหมดนี้มี "สถานที่" ต่างๆ กว่า 2500 แห่งมาเป็นฉากให้ถ่ายภาพ โดยแต่ละที่นั้นล้วนจับภาพมาด้วยเทคโนโลยี HDR ซึ่งเมื่อมีการให้แสงที่สมจริงรวมทั้งมีเอฟเฟกต์หลากหลายให้เลือกใช้จนทำให้คุณมีอิสระในการสร้างบรรยากาศภาพได้อย่างมากมายแล้ว ตอนนี้การถ่ายภาพในโหมดนี้เลยให้ภาพที่ละเอียดแบบที่ชีวิตจริงแทบจะทำไม่ได้เลยทีเดียว

ใน "ภาพถ่ายการแข่งขัน" ผู้เล่นจะสามารถถ่ายภาพช่วงเวลาต่างๆ ของการแข่งขันออกมาได้อย่างมีชีวิตชีวา ซึ่งทำได้โดยหยุดการแข่งขันไว้ชั่วคราวแล้วเข้าไปในฉากนั้น ซึ่งจะทำให้ผู้เล่นสามารถถ่ายภาพสุดอัศจรรย์ระดับที่แทบไม่อาจถ่ายได้ในชีวิตจริงเลยทีเดียว

"จัดแสดง" คือที่ที่ผู้เล่นจากทั่วโลกมามีปฏิสัมพันธ์กันผ่านเนื้อหาที่ผู้ใช้สร้างขึ้นเอง

โดยสิ่งที่มาดูกันได้ใน "จัดแสดง" นั้นมีทั้งรีเพลย์, ภาพถ่าย, สติกเกอร์ และสีพ่นรถ ซึ่งผู้เล่นสามารถนำเนื้อหาเหล่านี้ไปแชร์ให้ผู้เล่นคนอื่นๆ ดูกันในช่องทางออนไลน์ และถ้าผู้เล่นคนไหนตั้งค่างานสร้างสรรค์ของตัสวเองเป็นสาธารณะเอาไว้ ก็ไปดาวน์โหลดกันมาได้ด้วย และก็งานสร้างสรรค์เหล่านี้ที่ทำให้ผู้เล่นจากทั่วโลกมาสนุกสนานกับการมีปฏิสัมพันธ์กันได้

การใช้เทคโนโลยี Ray Tracing เพื่อให้ได้ภาพที่สมจริงถึงขีดสุด และระบบจำลองสภาพอากาศที่พัฒนาไปอีกขั้น

GT7 เวอร์ชัน PlayStation®5 ใช้เทคโนโลยี Ray Tracing ซึ่งเป็นเทรนด์ล่าสุดในโลกของวิดีโอเกม และเทคโนโลยีนี้ทำให้รถดูสวยงามยิ่งกว่าเคย ส่วนระบบจำลองช่วงเวลาและสภาพอากาศนั้นก็พัฒนาไปอย่างมาก โดยสภาพอากาศจะมีความแตกต่างกันในระดับทั่วโลกในเกม ซึ่งความแตกต่างนั้นอิงจากข้อมูลด้านอุตุนิยมวิทยาจำนวนมหาศาลที่เกี่ยวเนื่องกับสนามแข่งในสถานที่ต่างๆ ทำให้ผลที่ออกมาก็คือ เราสร้างเมฆและบรรยากาศของพื้นที่ต่างๆ เหล่านั้นขึ้นมาใหม่ได้เหมือนจริงที่สุด นอกจากนี้ ฟ้าพร่างดาวซึ่งเป็นอีกจุดสนใจในภาคก่อนๆ ก็ได้รับการพัฒนาให้ดีขึ้นไปอีกด้วย โดยท้องฟ้ายามราตรีนั้นจะจำลองขึ้นจากช่วงเวลาและสภานที่ของแต่ละสนามแข่ง ทำให้ผู้เล่นดูดาวได้ในแบบที่ตัวเองต้องการ

การเปลี่ยนแปลงสภาพสนามอย่างสมจริงมากขึ้น ขอเชิญพบกับเรดาร์ตรวจจับสภาพฝน

ช่วงเวลาและสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปรไปนั้นจะไม่ใช่แค่การนำเสนอภาพตัวแทนออกมา เพราะตอนนี้ทั้งหมดนั้นแนบสนิทอยู่กับระบบจำลองสภาพทางกายภาพของรถ ทำให้สามารถส่งผลกับอุณหภูมิพื้นผิวและมีผลกับความสามารถในการยึดเกาะของยาง และเงื่อนไขอื่นๆ ก็มีผลได้ถึงเครื่องยนต์เลยด้วย ระหว่างที่ฝนตก การยึดเกาะในที่ที่มีน้ำเจิ่งนองก็จะลดลง และพื้นสนามตรงไหนที่รถวิ่งผ่านบ่อยๆ ก็จะเริ่มแห้งก่อน ทำให้การยึดเกาะค่อยๆ กลับคืนมาอย่างช้าๆ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศต่างๆ เหล่านี้แสดงออกมาอย่างแม่นยำในการจำลอง และเพื่อให้สามารถสร้างผลจากสภาพอากาศออกมาได้อย่างสมจริง ตอนนี้ GT7 เลยมีเรดาร์ตรวจจับสภาพฝนด้วย ทำให้ผู้เล่นคาดเดาสภาพอากาศที่กำลังจะต้องเผชิญในสนาม และยังช่วยให้ผู้เล่นพัฒนากลยุทธ์สำหรับการแข่งยาวๆ เหล่านั้นได้

"รีเพลย์เพลง" เปลี่ยนมุมกล้องอย่างมีไดนามิกให้เข้ากับเพลง

เกม "แกรนทัวริสโม" ทุกภาคล้วนให้ความสำคัญกับ "รีเพลย์" อย่างยิ่งมาตั้งแต่การทำซ้ำครั้งแรก ซึ่งใน GT7 ก็ยังมีรีเพลย์คุณภาพสูงอยู่ แต่พัฒนาขึ้นไปมากด้วย "รีเพลย์เพลง" ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่ โดยรีเพลย์เพลงนี้จะตรงกันข้ามกับรีเพลย์แบบดั้งเดิม โดยจะมีกล้องคอยติดตามรถอยู่ในสนามล่วงหน้า และรีเพลย์เพลงก็จะสร้างมุมกล้องแล้วตัดออกมาให้เข้ากับเพลง คุณเลยได้เพลิดเพลินกับรีเพลย์ที่แตกต่างกันไปได้ในทุกครั้ง

ระบบจำลองกฎฟิสิกส์ที่พัฒนาขึ้นไปอีกขั้น

ระบบจำลองกฎฟิสิกส์ของ "แกรนทัวริสโม" ที่มีความเป็นมายาวนานกว่า 25 ปีแล้วนั้น ได้พัฒนายิ่งขึ้นไปอีกในภาคใหม่นี้ โดยมีการปรับแต่งตามคำติชมจากหลากหลายที่มา รวมทั้งจากผู้ให้คำแนะนำของเรา ลูอิส แฮมิลตัน, พันธมิตรทางเทคนิคของเรารวมทั้งผู้ผลิตยางระดับโลกอย่าง Michelin และนักแข่งที่เก่งที่สุดของ FIA GT Championships ทำให้ตอนนี้เวลาในแล็ปนั้นไม่เพียงมีความแม่นยำ แต่ระบบจำลองก็ยังพยายามติดตามด้วยว่าสัมผัสในการขับขี่นั้นตรงกับความรู้สึกของมนุษย์แค่ไหน นอกจากนี้ ระบบอากาศพลศาสตร์ก็พัฒนาขึ้นอย่างมากด้วยเช่นกัน โดยใช้พลศาสตร์ของไหลเชิงคำนวณ (CFD) มาสร้างแรงกดที่ต่างกันเพราะความสูงตั้งแต่หน้ารถถึงท้ายรถขึ้นมาใหม่ รวมทั้งผลที่ทิศทางลมและกระแสอากาศปั่นป่วนมีต่อการควบคุมรถด้วย

สัมผัสอันดื่มดำที่หาได้ใน PlayStation®5 เท่านั้น

GT7 เวอร์ชัน PlayStation®5 ใช้ประโยชน์จากระบบการตอบสนองสมจริงเมื่อสัมผัสและทริกเกอร์แบบปรับเปลี่ยนได้ของคอนโทรลเลอร์ DualSense อย่างเต็มที่ ทำให้เมื่อยางล็อก หรือเวลาที่ยางหน้าเริ่มไถลที่โค้งแล้วรถอันเดอร์สเตียร์ (หน้าดื้อโค้ง) ผู้เล่นก็จะได้สัมผัสกับความถี่ของการสั่นที่สมจริงแก่สถานการณ์ ผลก็คือ คอนโทรลเลอร์จะทำให้ผู้เล่นจะสัมผัสถึงสถานการณ์ที่รถเผชิญอยู่และสภาพพื้นผิวถนนได้อย่างสมจริง

นอกจากนี้ GT7 เวอร์ชัน PlayStation®5 ยังรองรับเสียง 3D ด้วย เทคโนโลยีนี้ทำให้สร้างทิศทางเสียงที่พุ่งมาหาได้อย่างสมจริง

"แรลลีเพลง" โหมดใหม่ที่ทำให้ได้เพลิดเพลินกับการขับรถไปตามเสียงเพลง

หนึ่งในความท้าทายใหม่ๆ ของ GT7 ก็คือโหมด "แรลลีเพลง" ที่ผู้เล่นเพลิดเพลินกับการขับรถไปฟังเพลงไปได้ ผู้เล่นจะต้องขับรถไปโดยไม่ให้ "จังหวะ" ที่จะค่อยๆ ลดลงไปตามท่วงทำนองของสนามหมด และเซสชันการวิ่งจะจบลงเมื่อเพลงเล่นจนจบ ทั้งนี้ ผู้เล่นจะได้รับรางวัลตามระยะทางที่ขับได้ ในการนี้ก็ขอให้เฝ้ารอพบกับโลกใบใหม่ใน "แกรนทัวริสโม" ที่เสียงเพลงและการเล่นเกมมาบรรจบพบกันอย่างแท้จริงได้เลย

*ความคืบหน้าในเกมและการเข้าถึงรถยนต์, การแข่งขัน, โหมดต่างๆ และฟีเจอร์การแต่งรถนั้นส่วนใหญ่ต้องใช้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต