ในวันที่ 9 เมษายน Audi ได้จัดงานที่ Audi Driving Experience Center ที่ตั้งอยู่นอกเมืองอิงโกลชตัดท์ (Ingolstadt) และได้เผยโฉม "Audi e-tron Vision Gran Turismo" คันใหม่ของตนเอง และในเวลาเดียวกัน จะมีรถคันนี้ 2 เวอร์ชันที่ใช้ระบบส่งกำลังที่แตกต่างกันเตรียมไว้ให้ใช้งานใน "Gran Turismo Sport" เป็นฟรีอัปเดต

"Audi e-tron Vision Gran Turismo" เป็นโมเดลที่มอบชีวิตให้แก่การตีความคำว่า "Gran Turismo" อย่างสมบูรณ์ไม่มีที่ติโดย Audi ที่มาพร้อมรูปลักษณ์เฉียบคมแบบรถสปอร์ตที่ห่อหุ้มด้วยหลักการออกแบบล่าสุดของ Audi และยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ของ Audi 90 IMSA GTO อันโด่งดังที่ลงแข่งขันในซีรีส์ 1989 North American IMSA

เพื่อเป็นการตอบสนองต่อการเรียกร้องให้มีระบบส่งกำลังที่หลากหลายขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา รถยนต์รุ่นนี้จะมีระบบส่งกำลังอยู่ 2 ประเภทใน "Gran Turismo Sport": รถยนต์คันที่กระจังหน้าสีดำสนิทคือ "Audi Vision Gran Turismo" เป็นรถเวอร์ชันไฮบริดที่ผสานเอาเครื่องยนต์ 3.4L V6 เทอร์โบที่จะส่งกำลังไปยังล้อหลังเข้าด้วยกันกับมอเตอร์ไฟฟ้า/ชุดผลิตไฟฟ้าทางด้านหน้า ทำให้กำลังรวมของทั้งระบบนั้นสูงถึง 950 กิโลวัตต์ (1292 แรงม้า)

ในส่วนของ "Audi e-tron Vision Gran Turismo" อีกคันนั้นจะเป็นรถยนต์ที่ใช้ระบบไฟฟ้าแต่เพียงอย่างเดียว โดยรุ่นนี้จะสังเกตได้จากกระจังหน้าสีขาว ที่มาพร้อมกับมอเตอร์ส่งกำลัง 200 กิโลวัตต์ 1 ตัวที่ด้านหน้าและอีก 2 ตัวที่ด้านหลัง ทำให้กำลังรวมของทั้งระบบอยู่ที่ 600 กิโลวัตต์ (815 แรงม้า)

อีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ล้ำหน้าสำหรับรถคันนี้ก็คือ เป็นรถ Vision Gran Turismo คันแรกที่สามารถนำไปขับขี่บนสนามแข่งในโลกแห่งความเป็นจริงได้: รถต้นแบบที่เปิดตัวในอีเวนต์จะสาธิตขับแสดงให้ดูที่ Formula E Rome GP ที่จะจัดขึ้นในวันที่ 13-14 เมษายน รวมทั้งจะไปเปิดตัวที่อีเวนต์สำคัญอื่น ๆ ที่ Audi จะเผยให้เห็นถึงรูปลักษณ์ภายนอกอันปราดเปรียวและประสิทธิภาพอันสูงส่งของรถคันนี้

คาซุโนริ ยามาอุจิ ที่ได้ไปเยือน Audi ครั้งแรกพร้อมนำคอนเซปต์ของรถคันนี้ไปให้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2013 ซึ่งทาง Audi ได้ตกลงด้วยความยินดีที่จะเข้าร่วมในโครงการนี้ และได้พัฒนารถแข่งเต็มประสิทธิภาพคันนี้อย่างระมัดระวัง และก็ถือ "Audi e-tron Vision Gran Turismo" เป็นหลักชัยและความสำเร็จอันมีความสำคัญในประวัติศาสตร์ของ Vision Gran Turismo