เมื่อ 18 ธันวาคม 2019
WeatherTech Raceway ลากูน่า เซค่าเป็นสนามแข่งขันรถยนต์ที่ตั้งอยู่ห่างออกไปทางใต้ 100 กิโลเมตรจากเมืองซานโฮเซ่ โดยอยู่ในใจกลางซิลิคอนวัลเลย์ที่ทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา สนามแข่งขันที่ต้องใช้เทคนิคแห่งนี้มีโค้งความเร็วปานกลางถึงความเร็วต่ำหลายโค้ง และห้อมล้อมด้วยทะเลทราย จึงอาจเกิดปัญหาด้านการเกาะถนนได้ เพราะว่าทรายที่อยู่รอบ ๆ จะถูกพัดเข้ามาในสนามแข่ง เพราะฉะนั้น นักแข่งจะต้องควบคุมความเร็วของตัวเองอย่างแม่นยำให้ได้ตลอดเวลา เพราะความผิดพลาดในการประมาณการแม้เพียงนิดเดียวจะส่งผลให้หลุดออกจากสนามแข่งหรือเกิดการชนได้ สนามแห่งนี้มีการเปลี่ยนแปลงระดับความสูงอย่างมีพลวัตด้วยสภาพภูมิประเทศ และก็เป็นลักษณะเด่นของสนามแข่งด้วย ทั้งยังมีไฮไลต์เป็นทางวิ่งลงเขาลึก 15 เมตรอันโด่งดังที่ชื่อว่า “Corkscrew” ลากูน่า เซค่าเป็นสนามแข่งขันรถยนต์อันเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นที่ไม่อาจพบได้จากที่อื่น
สปา-ฟรังก์คอร์ฌองส์ตั้งอยู่ห่างจากเมืองลีแยฌที่เป็นเมืองอุตสาหกรรมทางตะวันออกของประเทศเบลเยียมออกไป 40 กิโลเมตรทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ สนามแข่งนี้เป็นสนามแข่งความเร็วสูงที่ต้องใช้เทคนิค เคยได้จัดการแข่งขันทุกประเภทนับตั้งแต่ F1 จนถึงการแข่งมาราธอนนานหลายปี และสนามที่มีความยาวกว่า 7 กิโลเมตรนี้ก็ได้ใช้งานสภาพแวดล้อมอันเป็นภูเขาที่สนามตั้งอยู่เพื่อทำให้เกิดทางขึ้นเนินและลงเนิน ด้วยเหตุผลนี้เอง จึงทำให้สนามแข่งนี้เป็นที่สุดของความมีไดนามิก ซึ่งมีทั้งโค้งอันเป็นที่โด่งดังอยู่มากมาย เช่น โค้งขึ้นเนินความเร็วสูง “Eau Rouge” โค้งซ้ายมือ “'Blanchimont” ที่มีความเร็วสูงมาก และโค้งชิเคน “Bus Stop” ซึ่งทั้งหมดนี้ได้กลายเป็นฉากแห่งการต่อสู้อันโด่งดังหลายครั้งหลายคราว และนักแข่งหลายคนก็ชื่นชมสนามแข่งแห่งนี้ ว่าเป็นสนามแข่งที่ท้าทายที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
สนามแข่ง “กู๊ดวู้ด มอเตอร์ เซอร์กิต” ที่ตั้งอยู่ชานเมืองชิเชสเตอร์ทางตอนใต้ของประเทศอังกฤษนี้ เป็นสนามแข่งที่มีประวัติอันยาวนานและมีนักแข่งระดับตำนานหลายคนเคยมาเยือน เส้นทางของสนามโอบอยู่รอบสนามบินชิเชสเตอร์/กู๊ดวู้ด โดยมีทิวทัศน์อันงดงามตามธรรมชาติอยู่รอบๆ แตกต่างจากสนามแข่งสมัยใหม่หลายๆ แห่ง สนามแข่งนี้โดดเด่นในเรื่องการเป็นสนามแข่งความเร็วสูงที่มีโค้งความเร็วปานกลางและสูงอยู่หลายแห่ง และเพราะมีช่วงที่สามารถเร่งความเร็วสูงได้อยู่เยอะ รวมทั้งมีการเปลี่ยนระดับความสูงแทรกอยู่อย่างลงตัว จึงแน่ใจได้ว่าจะได้เห็นการแข่งอันน่าตื่นเต้นที่สนามแข่งแห่งนี้อย่างแน่นอน
'ออโตโพลิส' เป็นสนามแข่งรถที่มีชื่อเสียงโดดเด่น ซึ่งตั้งอยู่ตอนกลางของเทือกเขาในจังหวัดโออิตะบนเกาะคิวชู ที่อยู่ทางภาคใต้ของญี่ปุ่น สนามแข่งแห่งนี้เป็นที่รู้กันดีว่ามีผังที่ท้าทาย และแม้ว่าเซกเตอร์ที่ 1 จะเป็นช่วงความเร็วสูงที่เรียบง่าย แต่ก็มีโค้งความเร็วสูงต่อเนื่องที่ซับซ้อนในทุกช่วงความเร็วรอนักแข่งอยู่ในเซกเตอร์ที่ 2 และ 3 ทางที่ชันขึ้นสุด 7.2% และลาดลงสุด 10% ทำให้สนามแข่งแห่งนี้มีพื้นที่ขึ้นลงเต็มไปหมด และการจะขับให้ครบรอบสนามโดยไม่ผิดพลาดเลยจึงต้องใช้สมาธิเป็นอย่างสูง นอกจากผังสนามแข่งนานาชาติแล้ว ก็ยังมีผังเส้นทางลัดที่เปลี่ยนโค้ง 10 เป็นโค้งสุดท้ายอีกด้วย
สนามแข่งรถกาตาลุญญาเปิดขึ้นในเดือนกันยายนปี 1991 ซึ่งเป็นช่วงเดียวกับการเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกส์ที่บาร์เซโลนา โดยตั้งอยู่ห่างออกไปทางเหนือของเมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน ประมาณ 30 กม. นี่เป็นหนึ่งในสนามแข่งรถชั้นนำของสเปนที่จัดการแข่งขันมาหลายรายการ รวมถึงการแข่งกรังด์ปรีซ์ F1 ของสเปนด้วย สนามแห่งนี้มีทางตรงยาวและทางโค้งหลากหลายแบบ ทำให้การตั้งค่ารถมีผลต่อเวลาการวิ่งรอบสนามแข่งอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ สนามแข่งแห่งนี้จึงมักถูกใช้เป็นสนามทดสอบอยู่บ่อยๆ การเบรกที่โค้ง 1 จากทางตรงช่วงสุดท้ายซึ่งลาดลงเล็กน้อยเป็นจุดที่เหมาะแก่การแซงอย่างมาก
นี่คือสนามแข่งรถความเร็วสูงที่มีชื่อเสียง ณ เชิงภูเขาฟูจิ นับตั้งแต่เปิดในปี 1961 มีการแข่งขันใหญ่ ๆ มากมายและการแข่งขันอันโด่งดังจำนวนนับไม่ถ้วนเกิดขึ้นบนถนนของที่นี่ ถัดจากช่วงทางตรงยาว 1.5 กม. อันโด่งดังของสนามแข่งฟูจิ ครึ่งแรกคือช่วงความเร็วสูงที่รวมโค้งความเร็วปานกลางถึงสูงไว้ และมีครึ่งหลังเป็นช่วงที่ต้องใช้เทคนิคสูงบนทางที่ลาดเอียง และเพราะลักษณะเด่นของสนามแข่งในครึ่งแรกกับครึ่งหลังต่างกันอย่างมาก การเตรียมรถจึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง นอกจากผังสนามแข่งแบบ 'ฟูจิ สปีดเวย์ F' ที่ใช้ในการแข่งหลายรายการแล้ว ยังมีผังสนามแข่ง 'ฟูจิ สปีดเวย์ GT' มาให้อีกด้วย
สนามแข่งรถสีเขียวนี้ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกราซ อันเป็นเมืองเก่าแก่ในประเทศออสเตรีย จากชื่อเดิมว่าเอิสแทร์ไรช์ริงเมื่อตอนก่อตั้งครั้งแรกในปี 1969 สนามแข่งแห่งนี้ยังถูกเรียกว่า 'A1 ริง' ตั้งแต่ปี 1997 ถึง 2010 ด้วย สนามแข่งความเร็วสูงแห่งนี้ผสมผสานโค้งแคบหักศอกแคบกับช่วงเร่งความเร็วเต็มที่แบบยาว ๆ เข้าด้วยกัน และในขณะที่ผังดูเรียบง่าย แต่การที่ตัวสนามตั้งอยู่ในพื้นที่เชิงเขาก็ทำให้เกิดทางชันขึ้นลงเป็นจำนวนมาก และนั่นทำให้สนามแข่งแห่งนี้นั้นยากกว่าที่ตาเห็นในแวบแรก ดังนั้น เมื่ออยู่ในสนามแข่งนี้แล้ว ทักษะของนักแข่งจึงมีผลต่อการวิ่งครบรอบเป็นอย่างยิ่ง ทั้งนี้ สนามแข่งแห่งนี้มีทั้งแบบเต็มและแบบสั้นให้
นี่คือสนามแข่งรถที่ตั้งอยู่ในเมืองเลอม็อง ทางตะวันตกของฝรั่งเศส และเป็นสนามอันโด่งดังในฐานะสถานที่จัดการแข่งขันซึ่งถือว่าเป็น 1 ใน 3 รายการที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลก นั่นก็คือการแข่งขันเลอม็อง 24 ชั่วโมง นับตั้งแต่เปิดครั้งแรกในปี 1923 เป็นต้นมา สนามแข่งรถแห่งนี้ก็ได้เป็นเวทีของการต่อสู้อันมีชื่อเสียงมาแล้วมากมายตลอดช่วงเวลาหลายปี นอกจากนี้ ที่แห่งนี้ยังเป็นหนึ่งในสนามแข่งซึ่งมีช่วงให้ทำความเร็วได้สูงที่สุดในโลก ทำให้คุณสมบัติด้านอากาศพลศาสตร์ของรถจะถูกทดสอบจนถึงขีดสุด สนามแข่งนี้ไม่เพียงมีผังสมัยใหม่ที่เพิ่มโค้งชิเคนเข้ามาโดยมีระยะทางรวม 13.6 กม. ทว่ายังมีผังสนามแข่งแบบเก่าที่ไม่มีโค้งชิเคนมาให้ด้วย และนักแข่งจะได้พบกับการแข่งขันสมรรถนะด้านอากาศพลศาสตร์บนทางตรงดั้งเดิมยาว 5.7 กม.
สนามแข่งรถยอดนิยมของญี่ปุ่นแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองชิโมะสึมะในจังหวัดอิบะระกิ และเป็นหนึ่งในสนามแข่งที่อยู่ใกล้กรุงโตเกียวที่สุดแห่งหนึ่ง มีขนาดค่อนข้างกะทัดรัด ยาวเพียง 2,045 เมตร แต่รวมไว้ด้วยโค้งทั้งเล็กและใหญ่หลากหลายแบบ กับผังสนามอันท้าทายฝีมือซึ่งเป็นที่ชื่นชอบในหมู่นักแข่ง ตั้งแต่เปิดทำการในปี 1970 เป็นต้นมา มีการจัดอีเวนต์ใหญ่ๆ ขึ้นมากมายที่สนามแข่งรถแห่งนี้ เช่น รายการ All Japan Touring Car Championships และมันยังมีชื่อเสียงในฐานะสนามแข่งมาตรฐานที่สื่อด้านยานยนต์ต่างๆ ใช้อีกด้วย
สนามแข่งรถที่มีชื่อเสียงในสวนมอนซ่าอันงดงามเขียวขจี ซึ่งตั้งอยู่ชานเมืองมีลาโนทางตอนเหนือของอิตาลี สถานที่แห่งนี้สร้างเสร็จในปี 1922 โดยเป็นสนามแข่งที่เก่าที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ของโลกถัดจากสนามแข่งบรูคแลนด์และอินเดียแนโพลิส แม้ว่าเดิมทีสนามแข่งแห่งนี้จะมีช่วงทางโค้งรูปไข่ที่เอียงลาดชันรวมอยู่ด้วย แต่ปัจจุบันนี้เหลือเพียงแค่สนามแข่งรถความเร็วสูงที่มีโค้งชิเคนกับโค้งต่อเนื่องต่าง ๆ ที่ต่อด้วยทางตรงยาวเท่านั้น การเพิ่มผังสนามแข่ง 2 แบบคือแบบที่มีโค้งชิเคนและไม่มีโค้งชิเคนเข้ามา ก็เพื่อให้ผู้เล่นได้สัมผัสกับประสบการณ์การขับความเร็วสูงที่น่าตื่นเต้น
นี่คือสนามแข่งรถชั้นนำของบราซิลในอเมริกาใต้ และเป็นที่ชื่นชอบอย่างยิ่งของนักแข่งระดับตำนานอย่างไอร์ตัน เซนน่า สนามแข่งแห่งนี้เป็นสนามทวนเข็มนาฬิกาที่หาได้ยากในบรรดาสนามที่ใช้ในการแข่ง Formula 1 มันมีโค้งแรง G สูงเป็นทางยาวรวมอยู่กับส่วนในสนามที่แคบ และเนื่องจากสนามแข่งต้องการทั้งเสถียรภาพในโค้งความเร็วสูงไปพร้อมกับความสามารถในการเข้าโค้งบนโค้งความเร็วต่ำ มันจึงเป็นสนามที่นักแข่งยากที่จะจัดการ ซึ่งหมายความว่าสนามนี้เป็นสนามที่จะแสดงให้เห็นการพัฒนาทักษะของคุณได้อย่างชัดเจนในการทำเวลาของรอบสนาม
ด้วยความยาวกว่า 20 กม. และระดับความสูงที่หลากหลาย 300 ม. ความซับซ้อนอันหลากหลายบนพื้นผิวของสนามแข่งแห่งนี้ทำให้ยิ่งนักแข่งรู้จักมันมากขึ้นเท่าไรก็ยิ่งตื่นตะลึงขึ้นไปเรื่อยๆ สนามแข่งแห่งนี้ขึ้นชื่อเรื่องการเป็นสนามแข่งรถที่ทรหดที่สุดในโลก นักแข่งสามารถสนุกไปกับ ‘นอร์ดชไลเฟอ’ ซึ่งเป็นเวทีให้การแข่งขันดัง ๆ ในประวัติศาสตร์มาหลายรายการ และผัง ‘24 ชม.’ ที่เคยใช้ในการแข่งขันเนือร์บูร์กริง 24 ชม. สนามแข่งแห่งนี้ไม่เพียงมีสภาพแวดล้อมเป็นป่าสีเชียวสวยงามล้อมรอบในตอนกลางวัน แต่ยังมีบรรยากาศที่ให้ความรู้สึกถึงการพักผ่อนหย่อนใจในยามค่ำคืนอีกด้วย
นี่คือสนามแข่งรถยอดนิยมของชาวอเมริกันที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 60 ปี สนามแข่งแห่งนี้จัดการแข่งขัน CART มาหลายรายการในอดีต และยังคงเป็นสถานที่ที่ได้รับความนิยมจากนักแข่งมือสมัครเล่นในทุกวันนี้ด้วย นอกจากบิ๊ก วิลโลว์ที่เป็นผังหลักแล้ว เรายังมีผังที่ต้องใช้เทคนิคสูงอย่างสตรีท ออฟ บิ๊ก วิลโลว์ สปริงส์ และผังสั้น ๆ อย่างฮอร์ส ทีฟ ไมล์ด้วย ซึ่งเราหวังว่าทุกท่านจะชื่นชอบกับสนามแข่งที่แตกต่างกันอย่างมากทั้ง 3 แบบดังกล่าว
ในอดีตสนามแข่งรถแห่งนี้ที่ตั้งอยู่ในเมืองเคนต์ ประเทศอังกฤษ เคยเป็นเวทีของการแข่งรถ Formula 1 และทุกวันนี้ก็เป็นที่รู้จักในฐานะที่จัดการแข่งขันรถทัวริ่งและ British F3 Championship แม้สนามแข่งที่ตัดผ่านเข้าไปในป่าแห่งนี้จะขึ้นชื่อเรื่องเส้นทางที่ลาดชันขึ้นลง แต่ด้วยโครงสร้างของโค้งต่างๆ ที่ค่อนข้างจะเรียบง่าย ก็เลยเป็นที่ชื่นชอบทั้งในหมู่นักแข่งระดับเริ่มต้นและที่เชี่ยวชาญ อนึ่ง นอกจากการแข่ง GP แบบเต็ม ๆ แล้ว ก็ยังมีผังอินดี้ เซอร์กิตที่มีเส้นทางลัดตัดผ่านส่วนกลางมาให้ด้วย
นี่คือสนามแข่งรถชั้นนำของประเทศออสเตรเลีย ที่เคยเป็นเวทีให้อีเวนต์ใหญ่ ๆ อย่างเช่น Bathurst 12 Hour มาแล้ว ช่วงเริ่มต้นและช่วงสุดท้ายของสนามจะเป็นทางตรงยาว แต่ช่วงกลางที่วิ่งขึ้นเนินเขาจะเป็นส่วนที่ต้องใช้เทคนิคเป็นอย่างยิ่ง เพราะมีทางขึ้นลงที่ชันมาก อีกทั้งยังโค้งตาบอดอีกหลายโค้งด้วย และความแตกต่างอันใหญ่หลวงของแต่ละส่วนนี่เองที่กลายเป็นเสน่ห์อันเย้ายวนของเมาท์ พาโนรามา เซอร์กิต จงใช้เวลาเพื่อเป็นเจ้าสนามแห่งผังอันลีลาเหลือร้ายนี้
อันที่จริง สนามแข่งรถที่เคยเป็นเวทีให้ช่วงเวลาอันน่าจดจำมากมายของการแข่งรถแห่งนี้ ถูกสร้างขึ้นก่อนประเทศญี่ปุ่นจะมีทางหลวงเสียอีก มันเป็นหนึ่งในสนามแข่งน้อยแห่งมากของโลกที่มีผังเป็นรูปเลข 8 และมีทางข้าม การมีโค้งอันเป็นเอกลักษณ์อยู่หลายจุด ได้ทำให้สนามแข่งแห่งนี้เป็นที่โปรดปรานของนักแข่งระดับท็อปหลายคนทั่วโลก และนอกเหนือไปจากการแข่งเต็มสนาม 5.8 กม. แล้ว เรายังมีอีสต์คอร์ส อันเป็นการแข่งขันช่วงสั้นบนครึ่งแรกของสนามแข่งแห่งนี้มาให้ด้วย
เพิ่มเส้นทางถนนใหม่ที่มีไฮไลต์เป็นเกาะของซาร์ดิเนีย หนึ่งในรีสอร์ตมากมายที่โอบล้อมด้วยทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในอิตาลี การปิดส่วนหนึ่งของถนนสาธารณะเพื่อนำมาใช้เป็นสนามแข่ง ทำให้เส้นทางถนนความเร็วสูงที่ต้องใช้เทคนิคแห่งนี้มีทั้งทางตรงยาวที่สามารถเร่งเครื่องได้เต็มที่และทางโค้งแคบๆ ทางลาดขึ้นลงในช่วงครึ่งหลังของสนามแข่งและความกว้างของถนนที่แคบลงเรื่อยๆ ทำให้มีโอกาสเสี่ยงที่จะชนกับราวกั้นขอบถนนมากขึ้น นอกจาก ‘ซาร์ดิเนีย - ทางวิ่งบนถนน ‒ A’ ซึ่งเป็นเส้นทางวิ่งที่ยาวที่สุดในสามแบบแล้ว ยังมีแบบ ‘B’ ที่ยาว 3,893 ม. และแบบ ‘C’ ที่ยาว 2,661 ม. อีกด้วย
'สเปเชียลสเตจ รูต X' คือสนามแข่งความยาว 30 กิโลเมตร ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีจากการเป็นสถานที่ทดสอบใบอนุญาตและการแข่งความเร็วสูงใน Gran Turismo ภาคก่อนๆ ได้กลับมาแล้ว ด้วยผังสนามแข่งที่เรียบง่าย ประกอบด้วยทางตรงยาว 12 กม. 2 ช่วงและโค้งลาดเอียงอีก 2 โค้ง ทำให้สามารถสนุกกับการทำความเร็วสูงสุดและการแข่งขันความเร็วระดับสูงลิบได้ด้วยการใช้สลิปสตรีมให้เป็นประโยชน์
นี่คือสนามแข่งบนทะเลสาบแซ็ง-ครัวที่ของจริงตั้งอยู่ในเขตโพรวองซ์ทางตอนใต้ของฝรั่งเศส สนามแข่งความยาว 10 กม.แห่งนี้มีทางแยกอยู่มากมาย และสามารถเลือกผังสนามแข่งที่ต่างกันได้ 3 แบบ คือ A, B และ C ตามลำดับ สนามแข่งนี้ประกอบด้วยโค้งที่มีรูปทรงเรขาคณิตต่างๆ เช่น โค้งหักศอก 90 องศาและโค้งรัศมีวงกลม นอกจากนี้ แต่ละแบบยังมีผังในทิศย้อนกลับอีกด้วย
เกียวโตเป็นเมืองโบราณของประเทศญี่ปุ่น มันเคยเป็นทั้งศูนย์กลางทางการเมืองและวัฒนธรรม และสนามแข่งแห่งนี้ก็ตั้งอยู่ในภูเขาที่ชานเมืองเกียวโต สนามแข่งนี้มีสามสเตจ ประกอบด้วยการแข่งเส้นทางถนนเต็มเส้นทางที่ชื่อว่า “ยามากิวะ” เส้นทางตอนกลางวันหรือ “มิยาบิ” และผังที่รวมทั้งสองเส้นทางเข้าด้วย คือ “ยามากิวะ + มิยาบิ” สนามแข่งแห่งนี้จะเต็มไปด้วยของตกแต่งประดับประดาตามประเพณีญี่ปุ่น ตั้งแต่พื้นที่พิตที่ทำจากไม้และลวดลายแบบญี่ปุ่นบนข้างทาง ไปจนถึงพื้นผิวสนามแข่งที่เป็นหินและกำแพงไม้ไผ่
สนามแข่งนี้สร้างขึ้นมาให้เหมือนกับเมโทรโพลิแทน เอ็กซ์เพรสเวย์ ในโตเกียว ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมของทางหลวงที่ถักทออยู่ระหว่างตึกระฟ้าซึ่งสร้างขึ้นในยุคที่เศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นกำลังบูมขึ้นมาใหม่ และนอกจาก 'เซ็นทรัลวงนอก' กับ 'เซ็นทรัลวงใน' ที่อยู่ ณ ใจกลางเมืองแล้ว 'วงนอกตะวันออก' และ 'วงในตะวันออก' ความยาวกว่า 7 กม. ให้ท่านได้มีความสุขกับการขับรถในเมืองที่สว่างไสวด้วยแสงไฟยามค่ำคืน นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มผัง 'เส้นทางสายใต้' เข้าไปใหม่สองผังโดยอ้างอิงจากทางด่วนชูโตะของโตเกียวที่มีอยู่จริง คือ ผัง 'วงนอกสายใต้' ที่มีโค้งหลากหลายรวมถึงโค้งแฮร์พินและโค้งชิเคน และผัง 'วงในสายใต้' ที่ตัดผ่านสถานีขนส่งตู้คอนเทนเนอร์ด้วย
เส้นทางถนนแห่งนี้ตั้งอยู่ในภูมิภาคแดลเมเชียของโครเอเชียในยุโรปตะวันออก ล้อมรอบด้วยทะเลเอเดรียติกสีน้ำเงินครามและไหล่เขาลาดชัน สนามแข่งนี้เป็นรูปทรงสามเหลี่ยมที่มีจุดเลี้ยงหักมุม 3 จุด พร้อมด้วยส่วนต่างๆ ของสนามที่มีความหลากลายทั้งทางขึ้น ทางลง และส่วนที่เป็นพื้นราบอยู่ตลอดทางริมทะเล ภูมิภาคแดลเมเชียมีธรรมชาติอันไม่เหมือนใครด้วยแนวชายฝั่งที่หยักเป็นฟันปลา ทั้งยังมีพืชพรรณนานาชนิด เช่น ต้นมะกอก ต้นสน และต้นปาล์ม ซึ่งเป็นอีกส่วนที่น่าสนใจของสนามแข่งนี้
นี่คือสนามแข่งอันงดงามที่ตั้งอยู่ใกล้ทะเลสาบมัจจอเรทางตอนเหนือของประเทศอิตาลี และล้อมรอบด้วยเทือกเขาแอลป์ เส้นทางที่ต้องใช้เทคนิคนี้มีความยาวประมาณ 5.8 กม. และมีโค้งที่ไม่เหมือนใครอยู่มากมาย ทั้งยังผสมผสานด้วยทางชันขึ้นลงซึ่งเกิดจากภูมิประเทศที่เป็นไหล่เขา ทางตรงจะมีการเปลี่ยนระดับความสูง 40 ม. และมีโค้งแฮร์พินลาดเอียง 20 องศาที่ตรงสิ้นสุดเนินเขา ทำให้ได้สัมผัสประสบการณ์การขับรถซึ่งไม่มีที่ใดเสมอเหมือน นอกจากการแข่งเต็มเส้นทางแล้ว ก็ยังมีผังเส้นทางลัด 3 สนามแข่งซึ่งประกอบด้วย “ผังกลาง”, “ผังตะวันออก” และ “ผังตะวันตก”
นี่คือสนามแข่งฮาล์ฟไมล์ (ประมาณ 900 ม.) รูปทรงวงรีสั้น ซึ่งเป็นที่นิยมในกีฬามอเตอร์สปอร์ตของชาวอเมริกัน ทางลาดเอียง 31 องศาประกอบกับสนามแข่งกว้าง 16 ม. ของที่นี่ทำให้ตีไลน์กว้าง 2 และ 3 ไลน์รอบสนามแข่งได้ ไฮไลต์อันโดดเด่นของสนามแข่งแห่งนี้ก็คือแกรนด์สแตนด์ขนาดมหึมาที่เอาไว้รองรับผู้ชมและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสำหรับพิตที่ทันสมัย และนอกจากสภาพแวดล้อมในตอนกลางวันแล้ว ก็ยังจำลองเอาสภาพการแข่งในยามค่ำคืนมาไว้ด้วย ซึ่งจะทำให้ได้เห็นสนามแข่งแห่งนี้สว่างไหวไปด้วยแสงไฟ
ตั้งอยู่ ณ บริเวณอ่าวของอเมริกาที่มีต้นปาล์มสูงเสียดฟ้า นี่คือสนามแข่งรูปวงรีสมัยใหม่ที่มีโรงแรมที่พักและสนามบินอยู่ไม่ไกล สนามแข่งแห่งนี้มีลักษณะเป็นวงรีกึ่งสามเหลี่ยมที่มี 3 โค้ง 3 ทางตรง และมีความยาวรวม 2 ไมล์โดยประมาณ โค้ง 3 โค้งล้วนมีรัศมีและมุมลาดชันแตกต่างกัน ทำให้มีองศาอิสระคล้ายคลึงกับเวลาขับบนเส้นทางถนน นอกจากนี้ก็ยังมีความหลากหลายอีก 2 รูปแบบของสนามด้านใน A และสนามด้านใน B ซึ่งเชื่อมต่อกับพื้นที่สนามด้านในไปยังส่วนที่เป็นวงรี
นี่คือสนามแข่งวงรีที่สร้างขึ้นภายในสปอร์ตคอมเพล็กซ์ขนาดมหึมาในเมืองสำคัญของประเทศญี่ปุ่น โดยทั่วไปแล้วสนามแข่งแบบนี้จะมีรูปทรงวงรี แต่ที่นี่จะมีผังแตกต่างไปเล็กน้อยด้วยโค้งเพิ่มเติมในทางตรง จุดเด่นนี้ทำให้ตัวสนามดูคล้ายถั่วปากอ้าดังที่นำไปตั้งเป็นชื่อสนาม และเมื่อเทียบกับสนามแข่งวงรีตามมาตรฐานแล้ว สนามแข่งนี้ยังมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างรถกับจุดเบรกที่มากกว่าด้วย
ภูมิภาคอาลซัสของประเทศฝรั่งเศสนั้นมีประวัติศาสตร์ที่ไม่เหมือนใคร นี่คือสนามแข่งรถกึ่งถนนสาธารณะซึ่งทอดตัวไปรอบตำแหน่งที่ตั้งของหมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในภูมิภาค ตัวสนามแข่งตั้งอยู่บนเนินเขาสวยงามตามแนวแม่น้ำไรน์ซึ่งมีความยาวรวม 5.4 กม. นี่คือสนามแข่งความเร็วสูงซึ่งประกอบด้วยโค้งความเร็วปานกลางถึงสูงเป็นส่วนใหญ่ แต่ทางขึ้นลงที่มีอยู่อย่างหลากหลายก็ทำให้ทิวทัศน์ยามขับเปลี่ยนแปลงไปอย่างไม่หยุดนิ่ง ทิวทัศน์ตลอดเส้นทางที่ประดับประดาด้วยต้นไม้เขียวชะอุ่มและดอกไม้ที่สวยงามนั้นเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์อันเย้ายวนของสนามแข่งแห่งนี้
นี่คือสนามดินที่ตั้งอยู่ในภูมิภาคแห้งแล้งซึ่งยืดยาวจากทางตอนใต้ของเทือกเขาร็อกกีในอเมริกาเหนือไปยังเม็กซิโก สนามความยาว 7 กม. แห่งนี้ที่ลดเลี้ยวไปตามต้นกระบองเพชรและพุ่มไม้เตี้ย มีโค้งน้อยใหญ่อยู่มากมาย แถมยังมีทางลาดชันขึ้นลงรวมทั้งจุดกระโดดขนาดใหญ่อีกด้วย จงใช้ทั้งคันเร่งและเบรกเพื่อควบคุมรถของคุณที่วิ่งไปบนพื้นผิวที่เป็นดิน
นี่คือสนามดินที่ตั้งอยู่ ณ เกาะซาร์ดิเนียของประเทศอิตาลี ซึ่งล้อมรอบด้วยทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ชื่อสนามนั้นตั้งตามกังหันลมผลิตไฟฟ้าซึ่งตั้งตระหง่านอยู่ข้างเส้นทางแข่ง และเป็นสนามแข่งความเร็วสูงซึ่งตกแต่งด้วยต้นมะกอกและสนหินอิตาลี เมื่อพุ่งลงไปตามส่วนที่เป็นทางลาดลงอย่างรวดเร็วแล้ว จากนั้นสนามก็จะเปลี่ยนเป็นการไต่ทางลาดขึ้น ขอให้สนุกสนานกับความตื่นเต้นของการขับบนสนามดิน
โคโลราโด สปริงส์เป็นเมืองในรัฐโคโลราโดของประเทศสหรัฐอเมริกา และยังเป็นที่รู้จักกันในฐานะถิ่นกำเนิดของการแข่งไต่เขา ‘ไพค์ส พีค’ ด้วย นี่คือสนามดินที่ตั้งอยู่ตามแนวตลิ่งของทะเลสาบขนาดใหญ่ในเมืองที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ สนามแข่งความยาวประมาณ 3 กม. นี้เป็นดินเรียบเกือบตลอดเส้นทาง แต่ก็มีสันขนาดใหญ่ที่ทำให้รถลอยขึ้นจากพื้นได้ ซึ่งทำให้การควบคุมการกระโดดเป็นสิ่งจำเป็นต่อการได้รับชัยชนะ ขอให้มีความสุขไปกับการขับรถสุดตื่นเต้นบนผืนดิน ที่มีฉากหลังเป็นไม้เนื้อแข็งและต้นสนสีเขียวสวยงาม