ซาลซ์บูร์ก ประเทศออสเตรีย (31 กรกฎาคม 2022) อีเวนต์ถ่ายทอดสด Gran Turismo World Series นับตั้งแต่ช่วงต้นปี 2020 จัดขึ้นสุดสัปดาห์นี้ที่เร้ดบูล
แฮงการ์-7 ประเทศออสเตรีย โดยการชิงชัยใน World Series ซึ่งเป็นอีเวนต์ที่สองของรายการแข่งขัน เริ่มต้นด้วย Manufacturers Cup เมื่อวานนี้ และเป็นทีม Subaru ที่คว้าชัยไปทั้งสองรายการในปี 2022 นี้ ส่วนวันนี้จะเป็นอีเวนต์ Nations Cup ที่จดจ่อรอคอยความมันส์ อันประกอบด้วยห้าการแข่งขัน และมีรอบชิงชนะเลิศรวมอยู่ในนั้นด้วย เหล่านักแข่ง Nations Cup ทั้ง 31 คนต่างเดินทางไปยังซาลซ์บูร์ก และพวกเขาคือผู้ผ่านการคัดเลือกจาก World Finals ปี 2021 และรายการแข่งขันออนไลน์ปี 2022 ฤดูกาลที่ 1

รอบแรกนั้นเป็นการชิงชนะเลิศของแต่ละภูมิภาค โดยจะมีการแข่งขันในสามภูมิภาค คือ อเมริกา, ยุโรป/ตะวันออกกลาง/แอฟริกา (EMEA) และเอเชีย/โอเชียเนีย ซึ่งผู้แข่งขันที่ได้สามอันดับแรกจากแต่ละการแข่งขันในรอบนี้จะได้ตีตั๋วเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศโดยอัตโนมัติ ส่วนผู้ที่ได้อันดับต่ำกว่านั้นต้องไปวัดกันในรอบแก้ตัว โดยผู้ที่ได้สามอันดับแรกก็จะได้เข้าสู่รอบชิงชนะเลิศเช่นกัน สำหรับการแข่งขันที่เกิดขึ้นนั้น ทุกนัดมีดราม่าได้แทบทุกโค้ง ซึ่งส่วนหนึ่งก็เพราะนี่เป็นอีเวนต์ถ่ายทอดสดครั้งแรกหลังจากไม่ได้จัดมานาน แต่อีกส่วนก็เพราะผู้เล่นยังต้องทำความคุ้นเคยกับแพลตฟอร์มแกรนทัวริสโม 7 ด้วย สุดท้ายแล้ว ผู้ที่คว้าชัยไปก็คือนักแข่งหน้าใหม่

รอบชิงชนะเลิศประจำภูมิภาค EMEA: ดีป ฟอเรสต์ เรซเวย์

การแข่งขันแรกของกันวันเป็นการประชันฝีมือกันของเหล่านักแข่งตัวแทนภูมิภาค EMEA ในการแข่งขัน 20 แล็ปนี้ นักแข่ง 12 คนสวมถุงมือแข่งรถดวลกันใน Aston Martin Vulcan นี่เป็นการแข่งขันที่แผนการใช้ยางเข้ามามีบทบาทสำคัญ เนื่องจากมีข้อกำหนดว่า มีหนึ่งแล็ปเป็นอย่างน้อย ที่นักแข่งแต่ละคนต้องใช้ทั้งยางเนื้อปานกลางและเนื้อแข็ง งานนี้เหล่ามือเก๋าชื่อดังต่างปรากฏตัวที่อันดับต้นๆ ของเส้นออกตัว ทั้ง José Serrano (TDG_JOSETE) จากสเปนที่อยู่ในตำแหน่งโพล และแชมป์ปีที่แล้ว Valerio Gallo (William_BRacer) จากอิตาลี ในอันดับที่ 2 ส่วนแถวที่สองจะเป็น Baptiste Beauvois (R8G_TSUTSU) จากฝรั่งเศส และ Giorgio Mangano (Williams_Gio) จากอิตาลี

การแข่งขันนั้นเริ่มต้นอย่างเรียบร้อยด้วยการออกตัวแบบโรลลิ่ง โดยนักแข่งใช้ยางเนื้อแข็งกันแทบทั้งสนาม Serrano เป็นผู้นำไปในแล็ปแรกของการแข่งขัน แต่ก็มีรถคันอื่นๆ ไล่ตามเขามาอยู่ และ Coque López (coquelopez14) เพื่อนร่วมชาติของเขา อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในสองนักแข่งที่เริ่มการแข่งด้วยยางเนื้อปานกลาง ก็ได้เริ่มเคลื่อนไหว และพอถึงแล็ปที่สอง เขาก็ขยับจากอันดับที่ 8 ซึ่งเป็นอันดับที่เส้นออกตัว ขึ้นมาเป็นอันดับ 3 ก่อนจะขึ้นนำเป็นจ่าฝูงในแล็ปที่ 4

นักแข่งหลายคน ซึ่งรวมถึง Gallo กับ Beauvois เข้าพิตเปลี่ยนยางในแล็ปที่ 8 ส่วน Serrano เข้าพิตอีกแล็ปหลังจากนั้น และเมื่อ López ใช้ยางเนื้อแข็ง เหล่าหมาป่าผู้หิวกระหายก็พร้อมกระโจนตะครุบตำแหน่งกันแล้ว โดยเริ่มจาก Gallo ที่เข้าวงในแซง López ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงไปในโค้งที่ 1 ของแล็ป 13 ส่วน Serrano กับ Beauvois ก็แซง López ไปในช่วงทางตรงด้านหลัง

เมื่อถึงแล็ปที่ 17 นักแข่งชาวสเปนก็ดอดแซง Gallo ที่ทางตรงด้านหน้าไปคว้าที่ 1 และ José Serrao ก็ไม่เหลียวหลังกลับมามองใครอีก เขาเข้าเส้นชัยไปเป็นคนแรก ตามมาด้วย Baptiste Beauvois และเพื่อนร่วมชาติชาวฝรั่งเศส Kylian Drumont (PRiMA_Kylian19) ส่วน Gallo ผู้เข้าเส้นชัยในอันดับที่ 4 ไปอย่างน่าผิดหวังนั้น ต้องทำผลงานให้เป็นที่ประจักษ์ในรอบแก้ตัว ถึงจะผ่านเข้าสู่การแข่งขันใหญ่ได้

รอบชิงชนะเลิศประจำภูมิภาคอเมริกา: เดย์โทน่าโร้ดคอร์ส

สถานที่จัดการแข่งขันรอบที่สองสำหรับรอบชิงชนะเลิศประจำสามภูมิภาคคือเดย์โทน่าโร้ดคอร์ส โดยนักแข่งที่เร็วที่สุดจากอเมริกาเหนือ กลาง และใต้ ทั้งเก้าคน จะต้องมาขับเคี่ยวกันเพื่อชิงตำแหน่งในรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งสามอันดับแรกจะได้ตีตั๋วเข้าสู้รอบชิงชนะเลิศ ส่วนผู้ที่เข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 4 ถึง 7 ต้องไปแข่งกันในรอบแก้ตัว งานนี้ Igor Fraga (IOF_RACING17) จากบราซิล ผู้เป็นแชมป์ Nations Cup ปี 2018 แสดงให้เห็นว่าเขายังเป็นความแรงที่ต้องจับตา ด้วยการพา Ford GT กับลวดลายตกแต่งสีเขียวเหลืองผ่านรอบคัดเลือกมาออกตัวที่ตำแหน่งโพล ส่วน Angel Inostroza (YASHEAT_Loyrot) จากชิลีนั้นทำให้หลายคนต้องประการแข่งหลาดใจด้วยการออกตัวในอันดับที่ 2 อันที่จริง ห้าอันดับแรก ณ จุดออกตัว ล้วนมีแต่นักแข่งจากบราซิล (อีกสองคนคือ Adriano Carrazza [Didico__15] ในอันดับที่ 3 และ Lucas Bonelli [TGT_BONELLI] ในอันดับที่ 4) หรือไม่ก็จากชิลี (อีกคนคือ Fabián Portillo [Mobil_PerroLoco] ในอันดับที่ 5)

และก็เช่นเดียวกับการแข่งในรอบก่อนหน้านี้ คือนักแข่งต้องใช้ทั้งยางเนื้ออ่อนและเนื้อปานกลางแข่งจบหนึ่งรอบสนามเป็นอย่างน้อยในการแข่ง 16 แล็ป ดังนั้น การวางแผนเข้าพิตจึงมีบทบาทสำคัญเต็มที่ เมื่อรถทะยานผ่านเส้นสตาร์ท Fraga ก็นำฝูงเข้าโค้งแรกไปภายใต้แสงสีของการแข่งขันยามราตรี รถสามอันดับแรกเริ่มการแข่งขันด้วยยาง Michelin เนื้ออ่อน พวกเขาเลยหาทางทิ้งห่างจากฝูงแต่เนิ่นๆ Carrazza นั้นขึ้นแซง Inostroza ผ่านโค้งที่ 5 เพื่อขึ้นเป็นที่ 2 ส่วนคันอื่นๆ นั้นวุ่นอยู่กับการใช้ล่มส่งท้ายของกันและกันในส่วนวงรีของสนาม จนมีความเร็วถึง 270 กม./ชม. คนที่ไต่อันดับได้แต่เนิ่นๆ ด้วยยางเนื้ออ่อนก็คือนักแข่งจากอเมริกา Robby Heck (Robby--Heck) ที่ปีนอันดับผู้นำจากอันดับสุดท้าย (ที่ 9) ขึ้นไปเป็นที่ 4 ได้ตั้งแต่ในสามแล็ปแรก

พอถึงแล็ปที่ 7 ก็ได้เห็นการเข้าพิตครั้งเดียวของเหล่าผู้นำฝูง Fraga กลับสู่สนามเป็นที่ 2 และ Carrazza เป็นที่ 3 ส่วนจ่าฝูงอย่าง Bonelli นั้นเข้าพิตในแล็ปถัดมา และกลับสู่สนามด้วยอันดับที่ 5 ทว่า ตอนนี้เข้าใช้ยางเนื้ออ่อนแล้ว ในขณะที่จ่าฝูงในตอนนี้ใช้ยางเนื้อปานกลางที่ทำความเร็วได้ช้ากว่า และดังนั้น จึงเป็นอีกครั้งที่ขึ้นอยู่กับว่าใครวางแผนมาดีกว่ากันแล้ว

แล็ปที่ 10 เป็นการชิงที่ 2 กันอย่างดุเดือด โดย Carrazza กับ Inostroza นั้นผลัดกันแซงไปมาอยู่หลายครั้ง ส่วนที่อยู่หลังพวกเขา ก็มี Heck กับ Bonelli ที่ชิงที่ 4 กันอย่างไม่มีใครยอมใคร ขณะเดียวกัน Fraga ก็นำห่างไปอีกจนมากกว่า 4 วินาทีแล้ว การแย่งชิงอันดับกันนั้นดำเนินไปจนจนการแข่งขัน โดย Adriano Carrazza นั้นแซง Angel Inostroza ไปคว้าอันดับที่ 2 ได้อย่างฉิวเฉียด แต่ก็ไม่มีใครเข้าใกล้ Igor Fraga ได้แม้แต่นิดเดียว เขาลอยลำเข้าเส้นชัยไปอย่างน่าประทับใจ

รอบชิงชนะเลิศภูมิภาคเอเชีย-โอเชียเนีย: ฟูจิ สปีดเวย์

เมื่อแชมป์ Nations Cup ปี 2020 Takuma Miyazono (Kerokkuma_ej20) ไม่ได้เข้าร่วมในอีเวนต์ถ่ายทอดสดเนื่องจากมาตรการควบคุมโควิด-19 โอกาสในหมวดหมู่จึงเปิดกว้างสำหรับทุกคน ณ ตอนนั้น ในการแข่งขันนี้ นักแข่งคนหนึ่งของเราต้องพิสูจน์ตัวเองหลังจากทำผลงานย่ำแย่ไปในรอบแรก เขาก็คือ Ryota Kokubun (Akagi_1942mi) นักแข่งจากญี่ปุ่น ผู้เหยียบมิดติดเทอร์โบในรอบคัดเลือกจนได้ออกตัวเป็นอันดับแรกท่ามกลางนักแข่งทั้งแปด ที่ตีคู่มากับเขาก็คือ Kanata Kawakami (SG_Kawakana) ที่มาจากญี่ปุ่นเช่นกัน ในขณะที่ Matthew McEwenจากนิวซีแลนด์ (AE_McEwen) และ Tomoaki Yamanaka (yamado_racing38) จากญี่ปุ่นนั้นครองแถวที่ 2 เอาไว้

และก็เช่นเดียวกับการแข่งขันอื่น แผนการเข้าพิตนั้นมีบทบาทสำคัญ เพราะนักแข่งต้องใช้ทั้งยางเนื้ออ่อนและเนื้อปานกลางแข่งจบหนึ่งรอบสนามเป็นอย่างน้อยในการแข่ง 20 แล็ปรอบสนามฟูจิ สปีดเวย์ นักแข่งห้าอันดับแรกล้วนอยู่ใน Super Formula Dallara SF19 และต่างเลือกเริ่มการแข่งขันด้วยยางเนื้ออ่อน ในการออกตัวแบบโรลลิ่งนั้น McEwan เล็งจะแซง Kawakami ณ โค้งที่ 1 ด้วยการวิ่งวงนอก ด้วยคิดว่าจะมุดกลับมาเข้าขบวนได้ง่าย

ในรอบนี้นั้น นักแข่งทุกคนดูจะขับกันอย่างระมัดระวัง โดยในสองสามแล็ปแรกนั้นยังไม่มีใครออกท่าอะไรให้เห็นอย่างเด่นชัด จนพอมาถึงแล็ปที่ 4 เรื่องราวก็เริ่มร้อนแรงขึ้น โดยเฉพาะระหว่างนักแข่งชาวญี่ปุ่น Yamanaka กับ Seiya Suzuki (V1_CRV-KRT86) โดย Suzuki นั้นไล่แซงขึ้นมาจนอยู่หลังรถของ Yamanaka พยายามใช้ลมส่งท้ายของเขาที่ทางตรงยาวด้านหน้าด้วยความเร็ว 300 กม./ชม. แม้ดูเหมือนน่าจะแซงได้ แต่ Yamanaka ก็ป้องกันไว้ได้ แต่กลายเป็นเขาเองก็วิ่งเกินความเร็วที่สนามจำกัดไว้ ทำให้ถูกลงโทษไปครึ่งวินาที อย่างไรก็ตาม แม้จะถูกลงโทษ แต่ Yamanaka ก็ยังครองอันดับที่ 4 เอาไว้ได้

เมื่อถึงแล็ปที่ 10 กลุ่มจ่าฝูงก็พากันเข้าพิตเพื่อการเปลี่ยนยางที่ทำได้ครั้งเดียวเท่านั้น และเมื่อกลับสู่สนาม อันดับของพวกเขาต่างก็เหมือนเดิม โดยมี Kokubun เป็นผู้นำ ตามมาด้วย Kawakami กับ McEwen ซึ่งเห็นได้ชัดเจนว่า Kokubun นั้นจัดหนักเต็มพิกัด เพราะความเร็วของเขานั้นแทบไม่ลดลงเลย จนพอมาถึงแล็ปที่ 14 เขาก็นำห่างในสนามไปถึง 6.3 วินาที และในเมื่อ Kawakami นั้นครองอันดับที่ 2 ไว้อย่างเหนียวแน่น ศึกนี้จึงเป็นการชิงที่ 3 อันเป็นอันดับสุดท้ายที่จะได้เข้ารอบชิงชนะเลิศไปโดยอัตโนมัติ

ในศึกชิงอันดับนี้ Yamanaka ซึ่งอยู่ในอันดับ 4 อดทนซุ่มเป็นเงาตามหลัง McEwen ในอันดับที่ 3 เพื่อรอให้สบโอกาสลงมือ เขารอแล้วรอเล่าเฝ้าแต่รอ ทว่าโอกาสก็ไม่ปรากฏให้เห็นเสียที จนในที่สุดเขาก็ได้อันดับ 4 ไป ทำให้ต้องคัดตัวเข้ารอบชิงชนะเลิศด้วยท่ายากอย่างการแข่งในรอบแก้ตัว ส่วนผู้ชนะอย่าง Ryota Kokubun นั้น เรียกว่า... แรงดีไม่มีตก เขาลอยลำคว้าชัยชนะไปง่ายๆ อย่างน่าประหลาดใจต่อหน้าต่อตา Kanata Kawakami และ Matt McEwen

รอบแก้ตัว: วัตคินส์ เกลน ชอร์ตคอร์ส

อันดับที่เส้นออกตัวของรอบนี้จัดตามผลงานที่ทำได้ในรอบชิงชนะเลิศของแต่ละภูมิภาค ตำแหน่งโพลจึงตกเป็นของแชมป์ Nations Cup หรือก็คือ Valerio Gallo จากอิตาลี ผู้อยู่ใน Genesis X GR3 เพื่อการแข่งขัน 20 แล็ปรอบวัตคินส์ เกลน ชอร์ตคอร์ส ส่วนอันดับถัดไปนั้นเป็น Lucas Bonelli จากบราซิล และแถวสองก็มี Tomoaki Yamanaka จากญี่ปุ่น และ Patrik Blazsán (ROH-Fuvaros88) จากฮังการี อนึ่ง ด้วยความที่การแข่งขันนี้แขวนอยู่บนเส้นด้าย ผู้เล่นแต่ละคนจึงต่างสู้ขาดใจเพื่อให้เข้าเส้นชัยเป็นสามอันดับแรก ไม่อย่างนั้นสุดสัปดาห์ของพวกเขาคงจบลงแค่นี้ และนี่ก็เป็นอีกการแข่งขันที่ต้องเข้าพิต เพราะนักแข่งต้องใช้ทั้งยางเนื้ออ่อนและเนื้อปานกลางแข่งจบหนึ่งรอบสนามเป็นอย่างน้อย

การแข่งขันเริ่มต้นด้วยการออกตัวแบบโรลลิ่งผ่านเส้นสตาร์ทโดยมี Gallo เป็นผู้นำนักแข่งทั้ง 12 คนเข้าสู่โค้งที่ 1 ขณะที่รถทุกคันข้างหลังเขานั้นต่างวางตำแหน่งรถเพื่อใช้ประโยชน์จากสลิปสตรีมของกันและกันอย่างเต็มที่ แต่นักแข่งชาวอิตาลีทำผลงานได้ดีในการแข่งขันนี้ เขานำห่างไป 1.0 ในแล็ปที่ 3 แม้นักแข่งทุกคนจะเข้าพิตกันในแล็ปที่ 9 และ 10 แต่อันดับเมื่อการแข่งขันดำเนินมาถึงครึ่งทางนั้นก็ยังคงเดิม คือ Gallo, Yamanaka และ Bonelli

เมื่อถึงแล็ปที่ 16 ก็เริ่มเห็นได้อย่างชัดเจนแล้วว่าใครจะรอดไปในการแข่งขันนี้ เมื่อ Gallo นำ Yamanaka กับ Bonelli ไป 3.2 วินาที ในขณะที่สองคนดังกล่าวนำห่างจาก Dean Heldt (Deano_solo) จากสหรัฐฯ ในอันดับที่ 4 อยู่เกือบ 5 วินาที และสี่แล็ปสุดท้ายก็มีดราม่าเล็กๆ เมื่อ Valerio Gallo เข้าเส้นชัยไป ตามด้วย Tomoaki Yamanaka และ Lucas Bonelli ทำให้ทั้งสามคนเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศไป

รอบชิงชนะเลิศ: ไทรอัล เมาน์เทน เซอร์กิต

การแข่งขันตลอดสัปดาห์ที่เร้ดบูล แฮงการ์-7 เดินทางมาถึงที่สุดแห่งความพีกในการแข่งขันนี้ เพราะนี่คือรอบชิงชนะเลิศของการชิงชัยใน World Series นักแข่งที่เหลือรอดมาถึงรอบนี้มีเพียงผู้ที่เร็วที่สุดของที่สุดเท่านั้น โดยมี José Serrano ครองตำแหน่งโพลโพซิชันไปด้วยผลงานอันโดดเด่นจากรอบชิงชนะเลิศประจำภูมิภาค ส่วน Igor Fraga จากบราซิลนั้นอยู่ในอันดับที่ 2 ขณะเดียวกัน Ryota Kokubun จากญี่ปุ่นและ Baptiste Beauvois จากฝรั่งเศสก็อยู่แถว 2 และ Adriano Carrazza จากบราซิลกับ Kanata Kawakami จากญี่ปุ่นอยู่ในแถวที่ 3

ในการแข่งขัน 30 แล็ปรอบไทรอัล เมาน์เทน เซอร์กิตนี้ นักแข่งทั้ง 12 คนต่างรัดเข็มขัดอยู่บนรถ Red Bull X2019 Competition นักแข่งแต่ละคนต้องใช้ยางเนื้อแข็ง เนื้อปานกลาง และเนื้ออ่อนอย่างน้อยหนึ่งครั้ง และพวกเขาต้องเติมน้ำมันด้วย ดังนั้น แผนการแข่งขันจึงมีบทบาทสำคัญต่อผลลัพธ์

และในการแข่งขันนี้ นักแข่งห้าอันดับแรกเริ่มการแข่งขันด้วยยางเนื้อปานกลาง ความตื่นเต้นเริ่มขึ้นตั้งแต่ต้นทางเมื่อ Fraga ออกแซง Serrano ไปตั้งแต่ออกตัว พร้อมกันนั้นก็จ้องหาโอกาสจะแซงนักแข่งชาวสเปนไปตั้งแต่เนิ่นๆ และโอกาสนั้นก็มาถึงที่ทางตรงด้านหลัง เมื่อเขาใช้ลมส่งท้ายจากรถของ Serrano ที่ 320 กม./ชม. มาขึ้นนำเป็นจ่าฝูงไป

และพอมาถึงในแล็ปที่ 4 นักแข่งชาวสเปนอีกคนก็จัดหนักบ้าง เมื่อ Carrazza เข้าวงในโค้ง 9 แซง Kokubun ขึ้นไปเป็นอันดับที่ 3 ขณะเดียวกันนั้นเอง Fraga ก็เตือนให้โลกรู้ว่าทำไมเขาจึงเป็นแชมป์เก่าของ Nations Cup ด้วยการทำเวลาแล็ปเร็วที่สุดอย่างต่อเนื่องไปทีละแล็ป เมื่อถึงแล็ปที่ 5 เขาก็นำอยู่ 1.2 วินาที แต่จากนั้นก็ตัดสินใจเข้าพิตครั้งแรก ซึ่งเขาเปลี่ยนไปใช้ยางเนื้อแข็ง ส่วน Kylian Drumont จากฝรั่งเศสที่ออกสตาร์ทในอันดับที่ 7 ก็เข้าพิตเหมือนกัน โดยเปลี่ยนจากยางเนื้อแข็งไปเป็นเนื้อปานกลาง หลังจากผ่านไปอีกหนึ่งแล็ป Fraga ก็กลับเข้าพิตเพราะได้ทำตามข้อกำหนดที่ให้ใช้ยางเนื้อแข็งไปแล้ว และคราวนี้เขาเปลี่ยนไปใช้ยางเนื้ออ่อนที่ทำความเร็วได้มากที่สุด

ขณะเดียวกัน Serrano, Carrazza และ Kokubun ต่างก็กำลังชิงกันขึ้นนำเป็นจ่าฝูง โดยที่ทั้งสามคนนั้นยังไม่มีใครเข้าพิต และต่างทิ้งห่างกันไม่ถึงหนึ่งวินาที และเมื่อถึงแล็ปที่ 8 Carrazza ก็ใช้ประโยชน์จากลมส่งท้ายของ Serrano ในช่วงทางตรงด้านหลังแล้วขึ้นนำเป็นจ่าฝูง แต่ว่า Carrazza กับ Kokubun นั้นยังไม่ได้เข้า
พิตกันทั้งคู่ และในแล็ปต่อมา Yamanaka ที่เข้าพิตครั้งแรกไปแล้วในแล็ปแรก ก็ครองเกือบทั้งสนามด้วยการแซง Kawakami ขึ้นไปเป็นอันดับที่ 3 ส่วน Carrazza ผู้เป็นจ่าฝูงนั้นเข้าพิตในแล็ปที่ 10 เป็นอันส่งตำแหน่งนำคืนให้ Serrano ไป

ในแล็ปต่อมานั้น Yamanaka ที่อยู่กับดับ 2 ก็แซง Serrano ขึ้นนำเป็นจ่าฝูงไป ทว่า แม้จะแซงนักแข่งชาวสเปนไปได้ แต่ก็ดูเหมือนจะใช้ความเร็วในการนั้นมากไป ทำให้รถเสียการควบคุมจนหมุนคว้าง แต่ยังถือว่าโชคเข้าข้าง เพราะเขาควบคุมความเสียหายไว้ได้เกือบหมด ทำให้ยังสามารถกลับมาควบคุมรถและรักษาอันดับเอาไว้ได้ เขาเข้าพิตในแล็ปต่อมาเพื่อเปลี่ยนเป็นยางเนื้อแข็ง และคำถามที่อยู่ในใจของทุกคนก็คือ "แผนการเข้าพิตสี่ครั้งของเขานั้นใช้การได้จริงๆ หรือมันคือความผิดพลาดเต็มๆ กันแน่?"

ในทางกลับกัน แผนการเข้าพิตสามครั้งของ Fraga ดูจะคืบหน้าไปอย่างราบรื่น เพราะเข้าขึ้นมาถึงอันดับ 6 ได้ในแล็ปที่ 12 และยังเป็นนักแข่งคนเดียวใน 10 อันดับแรกที่เข้าพิตไปสองครั้งแล้ว จากนั้น เขาก็แซง Beauvois ที่โค้ง 8 แล้วขึ้นไปเป็นอันดับที่ 5 ส่วน Carrazza ที่ติดแหง็กอยู่ในฝูงก็โดนนั่งแข่งชาวฝรั่งเศสชนเข้า ทำให้รถเสียการควบคุมหมุนติ้วจนตกไปอยู่ท้ายสนาม

เมื่อมาถึงครึ่งทางของการแข่งขัน ลำดับในสนามก็เป็นดังนี้ คือ Kokubun, Fraga และ Gallo ซึ่งเมื่อมาถึงแล็ปที่ 15 Serrano ก็เข้าพิตเป็นครั้งแรก ส่วน Drumont ก็เข้าพิตเป็นครั้งที่สอง แต่จนถึงจุดนี้ ก็ยังเดาไม่ได้ว่าใครจะคว้าตำแหน่งที่ดีที่สุดในการแข่งขันไป เพราะแผนการแข่งขันที่ใช้กันนั้นต่างๆ นานาไปในหลายทาง

ส่วนนักแข่งฝรั่งเศสทั้งสองคน ที่มี Drumont กำลังนำ และ Beauvois วึ่งอยู่อันดับที่ 2 ก็เข้าพิตครั้งสุดท้ายกันในแล็ปที่ 22 โดยเปลี่ยนไปใช้ยางเนื้ออ่อนพร้อมกับเติมน้ำมัน และก็น่าทึ่งมากเมื่อ Drumont คืนสู่สนามโดยยังนำเป็นจ่าฝูง! โดยนำ Fraga ที่กำลังเฆี่ยนเต็มหวดอยู่วินาทีเดียว! นั่นทำเอาความตื่นเต้นปะทุขึ้นในบรรดาผู้รับชมการแข่งขันที่แฮงการ์-7 ตอนนี้เหลืออีกแค่เจ็ดแล็ปแล้ว เขาจะสามารถสกัดอดีตแชมป์ Nations Cup ให้อยู่หมัดได้หรือไม่?

คำตอบนั้นปรากฏชัดเจนขึ้นในแล็ปต่อๆ มา เมื่อแชมชาวบราซิลไม่อาจเฉือนการนำของ Drumont ได้ นักแข่งชาวฝรั่งเศสของเรารักษาความเร็วและความใจเย็นจนเข้าเส้นชัยไป เขาคว้าชัยชนะใน Nations Cup ครั้งแรกไปและนี่ก็เป็นชัยชนะครั้งที่สองของสุดสัปดาห์นี้ด้วย (เขาอยู่ในทีม Subaru ที่ชนะ Manufacturers Cup) ส่วน Igor Fraga ผู้แข่งขันได้อย่างชาญฉลาดนั้นเข้าเส้นชัยเป็นอันดับที่ 2 และ Ryota Kokubun ก็คว้าอันดับ 3 กลับบ้านอย่างสมศักดิ์ศรี

Kylian Drumont ผู้ที่ได้หกคะแนนไปจากชัยชนะครั้งนี้กล่าวว่า “ไม่รู้จะเอาคำไหนมาอธิบายความรู้สึกตอนนี้เลยครับ นี่เป็นอีเวนต์แรก แล้วก็เป็นชัยชนะแรกของผมด้วย บ้าไปแล้ว ในแง่การแข่งนี่ ผมก็แค่ทำตามแผนและรักษาความเร็วไว้ครับ พอเห็น Fraga ตามมา แถมตามมาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ผมก็ได้แต่บอกตัวเองให้ใจเย็น ซึ่งก็โชคดีที่ทุกอย่างได้ผลครับ ผมยังไม่อยากจะเชื่ออยู่เลยเนี่ย”

รับชมเหตุการณ์ทั้งหมดได้บนช่อง YouTube ทางการของ Gran Turismo https://www.youtube.com/GranTurismoOfficial/ และดูข้อมูลอื่นๆ เพิ่มเติมได้ทาง gran-turismo.com

ศึกชิงชัย Nations Cup ของ Gran Turismo World Series 2022
ผล