บาร์เซโลนา สเปน (3 ธันวาคม 2023) Gran Turismo World Series 2023 ได้เดินมาถึงความระทึกใจครั้งสุดท้ายแล้วในวันนี้ด้วยอีเวนต์ใหญ่สุดสัปดาห์ ซึ่งก็คือรายการ Nations Cup รอบ World Finals ของ World Series นั่นเอง! ในการแข่งขันสองรายการก่อนหน้านี้ คือ TOYOTA GAZOO Racing GT Cup (TGR GT Cup) เมื่อวันศุกร์ และ Manufacturers Cup เมื่อวันเสาร์ ได้สร้างบรรยากาศคึกคักและยกระดับความคาดหวัง ว่าทุกคนจะได้พบกับมหาศึกแห่งการประชันความเร็วกันขึ้นมา ท่ามกลางฝูงชนที่แน่นขนัดในสนามประลอง Fira Barcelona แห่งเมืองบาร์เซโลนาอันเปี่ยมด้วยชีวิตชีวาของสเปน ทีมที่มีความเร็วสูงสุด 12 ทีมพร้อมนักแข่งที่เป็นตัวแทนทีมละ 3 คนจากทั่วโลก ได้มารวมตัวกันเพื่อสำแดงทักษะให้ลือลั่นกันในการนี้ สิ่งสำคัญที่ทำให้การแข่งขันครั้งนี้ฉีกออกมาจากปีก่อนก็คือ Nations Cup ได้พลิกโฉมมาเป็นการแข่งขันแบบทีมแล้ว ซึ่งหมายความว่า เป้าหมายของบรรดานักแข่งในวันนี้จะก้าวข้ามเกียรติยศแห่งตน ไปเป็นการแข่งเพื่อเกียรติภูมิของประเทศที่ตนเป็นตัวแทนนั่นเอง

ทีมเต็งจ๋าที่คาดว่าจะกวาดเรียบในปีนี้ก็คือสเปน เพราะมีนักแข่งตัวท็อปของรายการทั้งสามคน คือ แชมป์ Nations Cup แบบเดียวเมื่อปีก่อน Coque López (coquelopez14) ที่มาร่วมทีมกับลมกรดตลอดกาล Jose Serrano (TDG_JOSETE) และสุดยอดหน้าใหม่ ความเร้าใจประจำฤดูกาล Pol Urra (GG_PolUrra) ทว่า ในสนามนั้นก็เต็มไปด้วยคู่แข่งตัวฉกาจ เช่น บราซิล ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และอิตาลี ต่างก็กระหายจะฉวยชัยชนะแล้วปล่อยให้แฟนๆ ชาวสเปนที่คึกคักกันต้องอึ้งกิมกี่

รูปแบบการแข่งขันจะประกอบด้วยการแข่งเดี่ยวขั้นต้น 3 การแข่งขัน คือ การแข่งขันที่ 1 ถึงการแข่งขันที่ 3 โดยมีนักแข่ง 1 คนเป็นตัวแทนของแต่ละประเทศ คะแนนที่ได้จากแต่ละการแข่งขันเหล่านี้จะเป็นสิ่งกำหนดจุดออกตัวของการแข่งขันต่อไป ในสามการแข่งขันดังกล่าว แต่ละทีมต้องใช้นักแข่งคนละคนกันในแต่ละการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม ที่สุดสายปลายทางการการแข่งขันนี้หรือก็คือรอบชิงชนะเลิศนั้น จะเป็นการแข่งขันอันเร้าใจในแบบทีม ซึ่งนักแข่งทั้งสามคนจากแต่ละประเทศต้องผลัดกันขึ้นขับรถระหว่างแข่ง และการที่คะแนนรอบชิงชนะเลิศนั้นเป็นสองเท่าของรอบอื่นๆ ก็บอกได้เลยว่าฉากสุดท้ายของฤดูกาลชิงแชมป์สุดเดือดครั้งนี้อลังการแน่ๆ

การแข่งขันที่ 1: ไทรอัล เมาน์เทน เซอร์กิต

การแข่งขันแรกของวันจะเป็นการแข่งสปรินต์ 5 แล็ปรอบสนามลีลาจัดอย่างไทรอัล เมาน์เทน เซอร์กิต Pol Urra จากสเปนอยู่ ณ ตำแหน่งโพลโพซิชันของเส้นออกตัวใน BMW M3 Coupe (โมเดลปี 2007) โดยมี Giorgio Mangano (LUA_Gio) จากอิตาลีเคียงข้างใน Lexus LFA สีเหลือง ส่วนที่ออกตัวในแถวต่อไปคือ Kylian Drumont (R8G_Kylian19) จากฝรั่งเศสใน Ford GT และ Lucas Bonelli (RVT_BONELLI) จากบราซิลใน Toyota Supra A80

นักแข่งทุกคนเริ่มการแข่งขันกันอย่างราบรื่น รถทุกคนพากันผ่านครึ่งแรกของสนามในรูปแบบเดียว แต่แล้วดราม่าก็เผยตัว ณ สุดทางตรงด้านหลัง เมื่อ Mangano กับ Drumont จ้องจะแซง BMW ของ Urra แต่ทั้งที่มีประสบการณ์ในการแข่ง GTWS ครั้งสำคัญๆ น้อยกว่า แต่นักแข่งชาวสเปนกลับใจเย็นตรึงไลน์ไม่ปล่อยให้ใครแซงไปได้เสียอย่างนั้น ในแล็ปที่ 2 Bonelli แซง Drumont ไปตรงโค้งขวาเล่นยากใต้อุโมงค์แรก ขณะเดียวกัน Rikuto Kobayashi (TX3_tokari71) จากทีมญี่ปุ่นก็ประกาศศักดาด้วยการไล่ล่าที่ 4 จาก Drumont ด้าน Mangano ก็ใช้ลมจาก BMW ของ Urra ณ ทางตรงด้านหลังเพื่อฉกตำแหน่งจ่าฝูงจากสเปน

ครึ่งสุดท้ายของการแข่งกลายเป็นอภิมหาศึกระหว่างฝรั่งเศส บราซิล สเปน และญี่ปุ่น ที่สลับตำแหน่งกันไปมาหลายครั้ง ศักดิ์ศรีที่ค้ำคอทำให้ไม่มีใครย้อมใครแม้แต่นิ้วเดียว เมื่อแล็ปที่ 4 เริ่มขึ้น อิตาลีกับสเปนก็สะสมการนำเหนือฝรั่งเศสไป 2.6 วินาที ส่วนฝรั่งเศสนั้นก็ยังคงนำญี่ปุ่นอยู่ 1.0 วินาที และที่ตามหลัง Lamborghini Diablo GT ของ Kobayashi อยู่ครึ่งวินาทีก็คือ Toyota Supra ของ Bonelli นั่นเอง

ในแล็ปสุดท้าย Urra อาศัยลมจาก LFA ของ Mangano ที่ทางตรงด้านหลัง ก่อนจะขึ้นแซงนักแข่งอิตาลีไปในโค้งต่อมา นักแข่งชาวสเปนกอดการนำไว้แน่น และพา M3 ยิงยาวจนธงตาหมากรุกโบกสะบัดไปท่ามกลางความดีใจยกใหญ่ของมวลชน

Urra แชมป์ TGR GT Cup ผู้อาศัยอยู่ห่างที่จัดงานไปไม่กี่โมล์กล่าวว่า "อะไรๆ อาจดูเหมือนง่าย แต่จริงๆ ทุกอย่างน่ากังวลกว่าที่เห็นไปหมดเลยครับ ตอนผมเห็นญี่ปุ่นกับฝรั่งเศสแย่งกัน ผมรู้เลยว่าตัวเองต้องรั้งตำแหน่งไว้แล้วไปชิงการนำในแล็ปสุดท้าย ซึ่งนั่นก็ออกมาค่อนข้างดีทีเดียวครับ"

Gran Turismo World Series รอบ World Finals 2023 - Nations Cup
ผลการแข่งขันที่ 1

การแข่งขันที่ 2: วัตคินส์ เกล็น

บรรดารถต่อแถวกันอยู่ ณ เส้นออกตัวตามลำดับที่ได้มาสำหรับการแข่งขันที่ 1 ซึ่งเป็นการแข่งสปรินต์ 5 แล็ป แต่คราวนี้สถานที่แข่งขันคือวัตคินส์ เกลน โร้ดคอร์ส ในรัฐนิวยอร์ก นักแข่งทุกคนอยู่บนรถฟอร์มูลา Honda RA272 ตัวแทนของเสปนในการแข่งขันนี้คือ Jose Serrano ส่วน Marco Busnelli (TDG_MARKUS) ของอิตาลีอยู่ที่ 2 ผลงานอันยอดเยี่ยมของ Rikuto Kobayashi ในการแข่งขันก่อนหน้านี้ทำให้ญี่ปุ่นได้อยู่ที่ 3 โดยมี Seiya Suzuki (LUA_CRV-86) เป็นผู้ขับ ส่วนมือเก๋าที่อยู่มายาวนานอย่าง Baptiste Beauvois (R8G_TSUTSU) ของฝรั่งเศสอยู่ที่ 4 และที่ต้องกล่าวถึงเช่นกันก็คืออันดับที่ 5 ของบราซิล ที่มีแชมป์ Nations Cup 2018 เป็นตัวแทน หรือก็คือ Igor Fraga (IOF_RACING17) นั่นเอง

ดราม่าแรกของวันเผยตัวออกมาในแล็ปแรก เมื่อ Busnelli พยายามตีวงแซง Serrano ผ่าน The Chute (โค้ง 6) แต่การชนกันโดยไม่ตั้งใจส่งนักแข่งชาวสเปนออกนอกสนามไปชนแผงกั้น ทำให้ Serrano ร่วงไปอยู่ที่ 7 ในทันที! นั่นทำให้เกิดการลงโทษอย่างหนักที่ 4 วินาที ซึ่งต่อมาจะทำอิตาลีลำบากสาหัสเลยทีเดียว จากนั้น ในแล็ปที่ 2 Beauvois เหยียบหินขอบทางที่เลนในของโค้ง 1 ทำใช้ยาง Michelin ของเขาเสียแรงยึดเกาะ และรถของนักแข่งฝรั่งเศษก็ไถลข้ามสนามไปในการนี้ ความผิดพลาดของนักแข่งทำให้ฝรั่งเศสตกไปอยู่ที่ 7 ในทันที

Busnelli เผชิญบทลงโทษ รถหกคันร่อนแซงเขาไปรวมทั้งบราซิลและญี่ปุ่นด้วย พวกเขาคงรู้สึกเหมือนคริสต์มาสมาถึงไว เพราะสเปนกับอิตาลีนั้นหลุดออกจากการแข่งขันนี้ไปแล้ว แต่ถึงอย่างนั้น การแข่งขันก็ยังดำเนินมาไม่ถึงครึ่ง และอย่าได้มองข้ามนักแข่งสเปนในอีเวนต์ World Series ไปเชียว และแน่นอนว่า Serrano ก็ไต่อันดับอย่างขยันขันแข็งราวกับนินจาผู้มาในความเงียบ และเมื่อแล็ปสุดท้ายเปิดฉาก ทีมสเปนก็อยู่อันดับ 4... และกำลังมุ่งหน้าต่อไป ทว่า Serrano มีเวลาไม่พอให้ไล่คนอื่นทัน และการแข่งขันก็จบลงโดย Fraga เป็นคนทำให้ธงตาหมากรุกโบกสะบัด และนำห่าง Suzuki ของญี่ปุ่นอยู่ 1.8 วินาที ส่วนที่เซอร์ไพรส์คืออันกับ 3 ของชิลี ซึ่งก็เพราะผลงานที่สม่ำเสมอของ Fabian Portilla (LUA_PerroLoco) นั่นเอง

“ผมก็แค่ขับไป แล้วอยู่ดีๆ ก็ไปอยู่ที่ 1 ครับ” Fraga กล่าวกลั้วหัวเราะหลังการแข่งขัน “หลังจากนั้นก็เป็นเรื่องปิดไม่ให้ทีมญี่ปุ่นใช้ลมส่งแล้วครับ ผมเลยพยายามวิ่งให้เร็วที่สุดแล้วนำให้ห่าง ซึ่งได้ผลครับ แล้วก็กลายเป็นการแข่งที่ยอดมากสำหรับเราไป”

Gran Turismo World Series รอบ World Finals 2023 - Nations Cup
ผลการแข่งขันที่ 2

การแข่งขันที่ 3: เซอร์กิต เดอ บาร์เซโลนา-กาตาลุญญา

รอบก่อนชิงนี้มีความสำคัญกว่าการแข่งขันก่อนหน้านี้เล็กน้อย เพราะเป็นการแข่งขันที่จะกำหนดจุดออกตัวของรอบชิงชนะเลิศ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องเข้าใจได้ที่บางทีมจะเก็บมือหนึ่งไว้ใช้ในการนี้ เช่น Valerio Gallo (OP_BRacer) แชมป์ Nations Cup 2021 ที่ลงแข่งให้อิตาลี และนักแข่งฟอร์มูลาในชีวิตจริง Rikuto Kobayashi ที่แข่งให้ญี่ปุ่น [หมายเหตุ: ญี่ปุ่นลงแข่ง Nations Cup แค่สองคนเพราะสมาชิกคนที่สาม Takuma Sasaki (SZ_TakuAn22) ไม่สามารถเดินทางมาสเปน] ศึกนี้เกิดขึ้นที่สนามประวัติศาสตร์อย่างเซอร์กิต เดอ บาร์เซโลนา-กาตาลุญญา ซึ่งอยู่ห่างสถานที่จัดงานไปไม่กี่ไมล์ โดยนักแข่งทุกคนอยู่ใน Peugeot 908 HDi FAP กัน แต่แต่ละคันก็จะทำสีตามประเทศของทีมนั้นๆ

Adriano Carrazza (Didico__15) ของบราซิลเป็นผู้นำในสนามผ่านแล็ปแรกๆ ส่วนรถคันอื่นๆ ก็หาทางทำอันดับ ณ จุดที่เหมาะแก่การแซงที่สุดของสนาม ในแล็ปที่ 2 นั้น Coque López ก็ลงมือ เขาแซง Harald Walsen (RMS-NySoRi) ของชิลีขึ้นไปอยู่ที่ 3 ขณะที่ Gallo ดอดมาส่งอิตาลีไปอยู่ที่ 4 การแข่งขันดำเนินไปได้ครึ่งทางแล้ว ที่นำอยู่คือบราซิล ตามมาด้วยญี่ปุ่น สเปน และอิตาลี เมื่อเริ่มต้นแล็ปที่ 4 ผู้ทรงอิทธิพลทั้งสี่เริ่มทิ้งห่างออกจากคันอื่นๆ ในสนาม แล้วแยกไปทำศึกชิงเดือดกันเอง

ณ จุดสิ้นสุดทางตรงด้านหน้าของแล็ปที่ 5 López ก็สำแดงให้เห็นว่าเหตุใดเขาจึงเป็นผู้ป้องกันตำแหน่งแชมป์ Nations Cup ด้วยการเบรกทุกคนไว้ที่โค้ง 1 แล้วขึ้นไปเป็นที่ 2 ท่ามกลางความยินดีปรีดาท่วมท้นของมวลชนเจ้าบ้าน ญี่ปุ่นเหมือนโชคไม่เข้าข้าง เพราะไม่เพียงต้องเสียที่ 2 ให้สเปน แต่ยังเสียที่ 3 ให้อิตาลีไปด้วย ขณะเดียวกัน Ethan Lim (VQS_Ethan) ก็อยากร่วมสนุกกับเขาเหมือนกัน ด้วยการไล่กวดคันข้างหน้าแล้วจ่อจมูกรถอยู่ที่ปีกหลังของ Kobayashi

เมื่อถึงแล็ปสุดท้าย Gallo อยากคว้าชัยชนะให้ทีมอิตาลีเลยจัด López อย่างเดือด แต่ก็แซงขึ้นไปไม่ได้อยู่ดี จากนั้น Gallo ก็เปลี่ยนสภาพจากผู้ล่าเป็นผู้ถูกล่า ที่ตีวงกว้างไปหน่อย ณ โค้ง 10 ทำให้ Kobayashi ย่องผ่านไปชิงที่ 3 มาได้ แต่การแข่งขันนี้เป็นของบราซิลกับ Adriano Carrazza ที่นำม้วนเดียวจบและทำให้ทีมได้ตำแหน่งโพลโพซิชันในรอบชิงชนะเลิศมา

“รู้สึกเลยครับว่าข้างหลังกดดันผมมาก ผมต้องกันไว้เสียใหญ่โต เพราะรู้ดีว่าที่อยู่ข้างหลังนี่เร็วๆ กันทั้งนั้น ผมอยากทิ้งห่างให้มากๆ เข้าไว้ครับ แล้วก็ถนอมแรงยึดเกาะของยางไว้ด้วย” Carrazza ให้ความเห็นหลังการแข่งขัน

Gran Turismo World Series รอบ World Finals 2023 - Nations Cup
ผลการแข่งขันที่ 3

รอบชิงชนะเลิศ: เซอร์กิต เดอ สปา-ฟรังก์คอร์ฌองส์

การแข่งขันสุดท้ายของฤดูกาลมีชะตาว่าต้องเป็นมหาศึก เมื่อทุกทีมต้องลงแข่งด้วยรถแข่งเสมือนจริง Red Bull X2019 (ยกเว้นญี่ปุ่น) ในศึกชุลมุนสุดทรหด 22 แล็ป สมรภูมิในการนี้ก็คือตำนานอย่างเซอร์กิต เดอ สปา-ฟรังก์คอร์ฌองส์ ที่ฝังลึกในประวัติศาสตร์ Formula 1 มายาวนาน และโด่งดังเรื่องผังที่ต้องใช้ความปราดเปรียวแถมยังซับซ้อนอีกต่างหาก ปัจจัยสำคัญในศึกมือใครยาวสาวได้สาวเอานี้ก็คือข้อบังคับว่าต้องใช้ยางทั้งเนื้อแข็ง ปานกลาง และอ่อน รวมทั้งต้องเติมน้ำมัน ซึ่งเหล่านี้ทำให้แผนการเข้าผิดกลายเป็นปัจจัยชี้ขาดในการกำหนดผลลัพธ์นั่นเอง

ที่อยู่แถวหน้าคือบราซิลกับสเปนที่มี Igor Fraga กับ Coque López ตามลำดับ ทั้งคู่เลือกออกตัวด้วยยางเนื้ออ่อน ด้วยหวังจะทิ้งห่างแต่เนิ่นๆ ทีมที่ตามมาก็คือญี่ปุ่น อิตาลี แคนาดา และชิลี ซึ่งต่างใช้ยางเนื้อปานกลาง ส่วนที่ท้ายฝูงนั้นตัดสินใจกำจัดข้อกำหนดเรื่องการใช้ยางเนื้อแข็งทิ้งไปแต่เนิ่นๆ

ในแล็ปแรกของการแข่งขันนั้น ญี่ปุ่นและอิตาลีทำความเร็วเกาะติดจ่าฝูงได้ดี เพราะบรรดารถแข่งวิ่งกันด้วยความเร็ว 320 กม./ชม. ผ่านโค้ง Eau Rouge และช่วงทางตรง Kemmel แต่พอแล็ปที่ 3 บราซิลกับสเปนก็นำห่างคันอื่นๆ ในสนามไป 2.0 วินาที López มุดเข้าสลิปสตรีมของ Fraga ในทางตรง Kemmel และแซงพาทีมสเปนขึ้นไปเป็นจ่าฝูงได้

เมื่อจบแล็ปที่ 6 ทุกทีมที่ใช้ยางเนื้อแข็งอยู่ก็เข้าพิตกันเป็นครั้งแรก Mangano ของอิตาลีก็เข้าพิตเช่นกัน ทั้งที่ยาง Michelin เนื้อปานกลางของเขายังวิ่งได้อีกสองสามแล็ป ทีมอิตาลีส่งพวงมาลัยต่อให้ Valerio Gallo แผนนี้คือให้นักแข่งที่เร็วที่สุดใช้ยางที่เร็วที่สุดไปให้นานที่สุด นี่คือการมุ่งคว้าชัยชนะ

แล็ปต่อไปก็เป็นคราวรถที่ใช้ยางเนื้อปานกลางเข้าพิต ขณะเดียวกัน López ก็โชว์ลีลาการขับระดับเหนือชั้น โดยทิ้งห่าง Fraga ไป 1.2 วินาที ในที่สุดอดีตแชมป์ Nations Cup ทั้งสองคนก็เข้าพิตในแล็ปที่ 9 และกลับลงสนามโดยทิ้งห่าง Gallo จากอิตาลีในที่ 3 ซึ่งกำลังไล่บี้มาอย่างหนักอยู่ 4.3 วินาที เส้นทางของพวกเขาเปิดเผยออกมาแล้วเพราะแผนการใช้ยางต่างกัน โดยสเปนใช้ยางเนื้อปานกลาง ในขณะที่บราซิลใช้ยาง Michelin เนื้อแข็ง

ณ จุดนี้ แผนของอิตาลีดูจะผลิดอกออกผล เพราะ Gallo ไม่เพียงไล่หนึ่งในจ่าฝูงทัน แต่ยังแซง Bonelli ในแล็ปที่ 12 ขึ้นไปเป็นที่ 2 ด้วย! ทีมญี่ปุ่นเข้าพิตในแล็ปที่ 14 ด้วยความตั้งใจจะใช้ยางเนื้ออ่อนไปจนเข้าเส้นชัย ส่วนบราซิลนั้นเข้าพิตในแล็ปถัดไปโดยตั้งใจจะใช้ยางเนื้อปานกลางไปจนจบ ทั้งสองทีมต่างหวังว่าจะตามทันหลังจากสเปนเปลี่ยนไปใช้ยางเนื้อแข็ง

แล้วก็ดังคาด จ่าฝูงทั้งสเปนและอิตาลีเข้าพิตครั้งสุดท้าย สเปนเปลี่ยนไปใช้ยางเนื้อแข็งโดยมี Pol Urra เป็นคนขับ และกลับสู่สนามโดยนำห่างอิตาลีอยู่ 4.4 วินาที ในขณะที่อิตาลีนั้นนำห่างบราซิลเพลินๆ 10 วินาที แต่อย่างไรก็ดี ยังมีอีกห้าแล็ปให้ต้องแข่งกัน

จากนี้ต่อไปอีกหลายแล็ป Kobayashi ของทีมญี่ปุ่นแสดงความสามารถบนยางเนื้ออ่อนอย่างเหนือชั้น โดยไล่ตาม Adriano Carrazza ของบราซิลทันแล้วแซงขึ้นไปในแล็ปที่ 20 จากนั้นก็จัดการกับ Marco Busnelli จากอิตาลีอย่างรวดเร็วในแล็ปที่ 21 ทว่า เขาก็มีเวลาไม่พอให้ไล่ตาม Urra ทัน เพราะแชมป์ TGR GT Cup ผู้นี้เข้าเส้นชัยเป็นคนแรก พาให้สเปนเป็นแชมป์ Nations Cup ประเภททีมรายแรกไปในการนี้! ด้านทีมที่ขาดอย่างญี่ปุ่นที่มีแค่ Kobayashi กับ Suzuki นั้นได้ที่ 2 ส่วนบราซิลที่แซงอิตาลีไปในแล็ปสุดท้ายก็ได้อันดับสุดท้ายบนโพเดียมไป แฟนๆ ต่างปรบมือส่งเสียงไชโยโห่ร้องกันกึกก้องพร้อมธงชาติสเปนที่โบกสะบัดด้วยความภูมิใจในหมู่ผู้ชม

ขณะที่มวลชนร้องเพลงอยู่นั้น Serrano ก็กล่าวขึ้นมาว่า “ดูสิ พวกเขาสุดยอดเลย! ผมอยากขอบคุณ Coque กับ Pol ที่ทำหน้าที่ได้เยี่ยมเหมือนเคยครับ”

Urra พูดถึงช่วงสุดท้ายของเขาว่า “พอเห็นว่าอิตาลีใกล้เข้ามาไม่ได้ ผมก็แบบ โอเค งานนี้คงเสร็จเราแล้วแหละ พอเป็นแบบนั้น แทนที่จะกดมิดสุดกำลัง ผมเลยอยากแค่ประคองรถให้อยู่ในสนามพอครับ”

López เสริม “ได้เป็นแชมป์ Nations Cup สองสมัยต่อกันคนแรกนี่มันยอดมากนะครับ แต่นี่ก็คงเป็นไปไม่ได้เลยถ้าขาดสุดยอดเพื่อนร่วมทีมทั้งสองคนไป ในช่วงของผม ผมกับ Igor ก็แข่งกันแบบไม่อะไร เหมือนเราทำสงครามประสาทกันน่ะครับ แต่การมีเพื่อนร่วมทีมอยู่กับผมด้วยนี่คือดีจริงๆ”

Gran Turismo World Series รอบ World Finals 2023 - Nations Cup
ผลรอบชิงชนะเลิศ

Gran Turismo World Series รอบ World Finals 2023 - Nations Cup
อันดับคะแนนตัดสิน