กรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ นี่คือสิ่งที่อาจกลายเป็นช่วงเวลาอันตราตรึงในความทรงจำที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Gran Turismo World Series เพราะการชิงแชมป์ Nations Cup ได้เดินทางมาถึงบทสรุปที่น่าตื่นเต้นเร้าใจในรอบ World Finals แล้ววันนี้ การแข่งขันครั้งนี้เกิดขึ้นที่ Theater Amsterdam อันงดงามดุจภาพวาด ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งอันเงียบสงบของแม่น้ำไอจ์ ท่ามกลางความมีชีวิตชีวาของย่านฮูทาเวนส์ ในการนี้ คนดูแห่แหนกันมาจนแน่นขนัดที่จัดงาน เพื่อเป็นประจักษ์พยานในความเฉียบคม การใช้แผนการ และการแข่งขันอันน่าตื่นเต้นเหลือคณา ที่ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะสลักฝังลงในทุกดวงใจไปอีกแสนนาน

Nations Cup นำนักแข่ง 12 อันดับแรกจากรอบคัดเลือกออนไลน์ปี 2024 มาเจอกัน ซึ่งทุกคนนั้นทำศึกชิงคะแนนการแข่งชิงแชมป์มาในสามรอบก่อนหน้านี้แล้ว และในรอบ World Finals นี้ พวกเขาต้องเผชิญกับการแข่งขันอันตึงเครียดสามนัด ที่แต่ละนัดจะมอบคะแนนให้ผู้ที่เข้าเส้นชัยเป็น 10 อันดับแรก แต่ความเร้าใจไม่ได้อยู่แค่นั้น เพราะผลของการการแข่งขันที่ 1 จะกำหนดตำแหน่งออกตัวให้การแข่งขันที่ 2 ซึ่งจะกำหนดตำแหน่ง ณ เส้นออกตัวในรอบชิงชนะเลิศต่อไป เดิมพันในการแข่งขันนัดตัดสินนี้สูงเสียดฟ้า เพราะคะแนนสองเท่ามากองตรงหน้า จึงแน่ใจได้ว่านักแข่งทุกคนล้วนมีโอกาสคว้าแชมป์ไปจนแล็ปสุดท้ายเลยทีเดียว

Kylian Drumont (R8G_Kylian19) มุ่งหน้าไปอัมสเตอร์ดัมโดยจอดอยู่เหนือสุดบนกระดานด้วย 11 คะแนน ที่จี้มาติดๆ คือ Valerio Gallo จากอิตาลี (OP_BRacer), Takuma Miyazono จากญี่ปุ่น (Kerokkuma_ej20) และ Jose Serrano จากสเปน (TDG_JOSETE) เพราะสามคนนี้ติดแหง็กอยู่ที่ 2 ด้วยกัน โดยมีคนละ 10 คะแนน

ท่ามกลางทุกอย่างที่อยู่บนเส้นด้ายแบบนี้ เหล่านักแข่งก็มุ่งหน้าสู่เส้นออกตัวเพื่อการแข่งขันรอบรองสุดท้ายกันแล้ว

การแข่งขันที่ 1: ไทรอัล เมาน์เทน เซอร์กิต

การแข่งขันนัดเปิดฉากของวันเกิดขึ้นที่ไทรอัล เมาน์เทน เซอร์กิตอันโด่งดัง ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ แกรนทัวริสโมกันมายาวนาน ในการแข่งขัน 10 แล็ปนี้ นักแข่งคาดเข็มขัดอยู่บนเบาะของรถที่ผลิตเพื่อจำหน่าย ซึ่งใช้เครื่องที่จูนมาจนมีกำลังถึง 1,000 แรงม้าโดยประมาณ งานนี้ไม่บังคับให้ต้องเข้าพิตหรือเปลี่ยนยาง จึงเป็นการแข่งขันที่ว่ากันด้วยความเร็วเน้นๆ Takuma Miyazono อยู่ ณ โพลโพซิชันหลังผ่านรอบคัดเลือกมาด้วยความเร็วดุจสายฟ้า ที่ตีข้างมาคือ Valerio Gallo จากอิตาลี และ Coque López จากสเปน (coquelopez14) ผู้ป้องกันแชมป์ Nations Cup

เมื่อธงเขียวโบกสะบัด รถทุกคันต่างทะยานจากการออกตัวแบบโรลลิ่งกันอย่างเรียบร้อย โดยมี Lamborghini Gallardo ของ Miyazono นำเป็นจ่าฝูงไปในสองสามโค้งแรก ทว่า Gallo ก็ไม่ยอมเสียเวลา เขายืนยันสิทธิ์ในบัลลังก์แชมป์ด้วยการพา Honda NSX Type R พุ่งแซง Lambo ไปด้วยความเร็ว 350 กม./ชม. ที่ทางตรงออกจากเส้นชัยเพื่อขึ้นนำ และเมื่อแล็ปที่หนึ่งผ่านพ้นไป สี่อันดับระยับแถวหน้าก็ปรากฏออกมา ด้วยการเริ่มทิ้งห่างจากคันอื่นในสนาม ด้านหลังของ Gallo กับ Miyazono ก็คือ Ferrari F40 ของ López ซึ่งติดอยู่ในการดวลเดือดชิงที่ 3 กับ Mercedes-AMG GT Black Series ของ José Serrano ผู้เป็นสหายร่วมชาติ

พอถึงแล็ปที่ 4 Gallo ก็ลอยลำนำไปคนเดียว เขาค่อยๆ ทิ้งห่างจากฝูงไปเรื่อยๆ แล้ว ขณะเดียวกัน Kylian Drumont จากฝรั่งเศสใน Toyota Supra A80 กับ Takuma Sasaki (SZ_TakuAn22) ที่ขับ Porsche 911 GT3 RS ก็กำลังไต่เต้าขึ้นมาจนคืบหน้าอย่างเห็นได้ชัด ทว่า ตอนนี้สปอตไลต์สาดไปยังศึกชิงที่ 2 แล้ว เพราะ AMG ของ Serrano ทะยานลำแซง Gallardo ของ Miyazono ไปในโค้งที่ 3 ใต้อุโมงค์

ขณะที่ไกลออกไปยังด้านหลังนั้น หนุ่มดัตช์ Kaj de Bruin (R8G_Kajracer) ก็สามารถชดเชยการออกตัวที่ทำให้ใจหล่น โดยพา Nissan Skyline GT-R R32 มาเกาะอยู่ในกลุ่มกลางได้ และเมื่อถึงแล็ปที่ 6 Drumont ก็ลงมือ เขาแซง López ไปเอาที่ 4 มาได้ ทว่าในตอนนั้น รถสามอันดับแรกก็นำห่างไปเกินสี่วินาทีแล้ว

ช่วงเวลาชี้เป็นชี้ตายมาถึงเมื่อ Serrano เริ่มสาวคันรถเข้าไปหา NSX ของ Gallo พอถึงแล็ปที่ 6 รถของหนุ่มสเปนก็จรดอยู่กับกันชนท้ายของชายอิตาลี ด้วยพยายามจะแซงแบบไม่สนลูกใครที่ทางตรงเข้าเส้นชัย อย่างไรก็ดี Gallo โชว์ความจิตแข็งและทักษะการขับบังไลน์อันยากจะหาใครเทียบเทียม เขาบีบ Serrano ให้ไปอยู่ไลน์นอกซ้ำๆ ที่โค้งเล่นยาก ทั้งสองดวลเดือดเดิมพันสูงกันแล็ปแล้วแล็ปเล่า ในรถที่ห่างกันแค่คืบเท่านั้นเอง

สุดท้าย Gallo ก็ยันไว้ได้ เขาเข้าเส้นชัยไปเป็นคนแรก โดยมี AMG ของ Serrano เข้าเส้นชัยตามติดไปเป็นที่ 2 ส่วน Miyazono นั้นมารับจบให้โพเดียมครบองค์ ในขณะที่เพื่อนร่วมชาติอย่าง Sasaki ก็งัดความมุ่งมั่นออกมาคว้าที่ 4 ไปใน Porsche 911

ผลงานที่เหนือกว่าใครส่งให้ Gallo โดดไปอยู่ลำดับบนสุดของอันดับชิงแชมป์ด้วย 22 คะแนน ตามมาด้วย Serrano ที่มี 20 คะแนน ส่วน Miyazono นั้นอยู่ที่สามกับ 18 คะแนน โดยมี Drumont กับ 17 คะแนนจี้มาติดๆ บัดนี้ เวทีสำหรับศึกชิงชัยที่จะตราตรึงใจในการแข่งครั้งต่อไปก็พร้อมแล้ว

Gran Turismo World Series 2024 World Finals - Nations Cup
Race 1 Results

การแข่งขันที่ 2: ออโต้โดรโม่ นาเซียวนาเล่ มอนซ่า

การแข่งขันที่ 2 เป็นศึกงานหิน เพราะเหล่านักแข่งต้องแข่งกัน 12 แล็ปในรถฟอร์มูลา Gran Turismo F3500-A อสูรร้ายคันนี้มีรถฟอร์มูลาวันยุคทศวรรษ 1990 เป็นต้นแบบ ใช้เครื่องยนต์ V12 784 แรงม้า ซึ่งติดตั้งในแชสซีที่หนักเพียง 505 กก. และเพื่อเพิ่มความเร้าใจ รอบนี้บังคับว่าต้องใช้ทั้งยางเนื้อปานกลางและเนื้อแข็ง ซึ่งหมายความว่าการเข้าพิตจะมีบทบาทสำคัญต่อผลลัพธ์อย่างยิ่งนั่นเอง

การออกตัวแบบเริ่มต้นจากหยุดนิ่ง ทำให้ความตื่นเต้นที่เส้นออกตัวระเบิดออกมาตั้งแต่ไฟแดงดับแสงเลยทีเดียว Takuma Miyazono พุ่งข้ามเส้นไปอย่างกับจรวด เขาทะยานแซง José Serrano กับ Valerio Gallo ไปคว้าตำแหน่งจ่าฝูงมุ่งหน้าสู่โค้งแรก แต่ Gallo นั้นเป็นนักสู้เสมอ เขาชิงตำแหน่งคืนมาได้ในโค้ง Variante della Roggia ซึ่งเป็นโค้งที่ 3 ส่วนข้างหลังเขานั้น ศึกกลางฝูงก็ซัดกันดุดันก่อนที่สนามจะเริ่มเข้ารูปในแล็ปที่ 3 Gallo ยังเป็นผู้นำในสนาม โดยมี Miyazono, Coque López, ฮีโร่เจ้าถิ่น Kaj de Bruin และ Serrano ปิดท้าย โดยทุกคนต่างใช้ยางเนื้ออ่อนที่ทำความเร็วได้ดีกว่ายางอื่น

ในแล็ปที่ 4 Miyazono ฉวยโอกาสจากสลิปสตรีมของ Gallo เพื่อแซงเขาไปที่ทางตรงเข้าเส้นชัยและชิงการนำกลับมาได้ ต่อมาไม่นาน de Bruin ก็ทำให้แฟนๆ ชาวดัตช์ต้องตื่นเต้นด้วยการใช้ลีลาแบบเดียวกันใส่ López แล้วชิงที่ 3 ไป แต่หายนะก็มาบังเกิดเมื่อ Gallo ทำพลาดแบบไม่ค่อยจะเกิดตอนออกจากโค้ง Variante Ascari ในแล็ปเดียวกัน ทำให้เขาเสียการยึดเกาะแล้วร่วงไปสี่อันดับในพริบตา นั่นเป็นความผิดพลาดแบบที่ไม่สมกับเป็นนักแข่งมือเก๋าเอาเสียเลย แถมยังเป็นในสนามบ้านตัวเองด้วย!

เมื่อถึงแล็ปที่ 5 de Bruin ก็โชว์ความเร็วชั้นเซียนด้วยการลากผ่าน Miyazono ไปที่ทางตรงออกจากเส้นชัยเพื่อชิงขึ้นนำ ขณะเดียวกัน Kylian Drumont กับยางเนื้อปานกลางก็เข้าพิตเป็นคนแรก เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับช่วงสุดท้ายแบบเดือดๆ กับยางเนื้ออ่อน กลการวางหมากเข้มเข้นขึ้นเมื่อ de Bruin กับ Miyazono ผลัดกันนำ ก่อนที่หนุ่มดัตช์จะเข้าพิตตอนจบแล็ปที่ 7 ไปพร้อม Miyazono แต่ Serrano ยังไม่เข้า เขาเดิมพันกับกลยุทธ์อันกล้าหาญต่อไป ก่อนจะเปลี่ยนเป็นยางเนื้อปานกลางในแล็ปต่อมา เขากลับสู่การแข่งขันในตำแหน่งจ่าฝูงโดยเหลืออีกสามแล็ปเท่านั้น ความเสี่ยงที่คำนวณมาตอบแทนเขาอย่างงามเลยทีเดียว!

แล็ปท้ายๆ เป็นการโชว์ความกล้าและการวางแผนแล้ว Drumont ที่ตอนนี้ใช้ยาง Michelin เนื้ออ่อนเป็นอาวุธกำลังเชือดเฉือนสนาม เขาแซง de Bruin ผ่านโค้ง Curva del Serraglio จากนั้นก็ทิ้งห่าง Miyazono ไป ณ ทางตรงเข้าเส้นชัย แล้วก็หมายตาจ่าฝูง Serrano ส่วนนักแข่งชาวสเปนที่ใช้ยางเนื้อปานกลางอยู่นั้น โดนแรงยึดเกาะสนามและความเร็วอันเป็นเลิศของ Drumont ไล่กดดันแบบไม่ลดละ แถมยังทิ้งห่างน้อยลงเรื่อยๆ ด้วย

แล็ปสุดท้ายเรียกว่าแทบไม่ได้หายใจหายคอกันเลยทีเดียว เพราะ Drumont พยายามขึ้นไปตีขนาบ Serrano อยู่หลายหน แต่ก็หาไลน์แซงพิฆาตไม่ได้เสียที ซึ่ง Serrano ก็บังไลน์ไว้สุดแรง เขาเบียด Drumont ให้ต้องตีวงกว้างทุกโค้งไป เมื่อมาถึงโค้งสุดท้าย Drumont ก็ใช้ความพยายามครั้งสุดท้าย แต่ Serrano ยังปักหลักตรึงแน่น แล้วเข้าเส้นชัยไปอย่างสวยสดงดงาม!

Drumont ได้ที่ 2 ไปอย่างคู่ควร ตามมาด้วย Miyazono ในที่ 3 ต่อด้วย de Bruin กับที่ 4 แล้วก็มี Angel Inostroza จากชิลี (Veloce_Loyrot) มาปิดท้ายห้าอันดับแรก

ชัยชนะครั้งนี้ทำให้ Serrano พุ่งฉิวไปอยู่อันดับสูงสุดในการชิงแชมป์โดยมี 32 คะแนน ส่วน Drumont กับ Gallo ได้ที่สองทั้งคู่ด้วยคะแนนเสมอกัน 27 คะแนน ส่วน Miyazono ก็จ่อท้ายมาติดๆ ที่ 26 คะแนน เมื่อผู้ชิงแชมป์ทุกคนพร้อมแล้วสำหรับรอบชิงชนะเลิศเช่นนี้ เวทีสำหรับการตัดสินว่าใครจะเป็นแชมป์ Nations Cup ปี 2024 ก็พร้อมแล้วเช่นกัน

Gran Turismo World Series 2024 World Finals - Nations Cup
Race 2 Results

รอบชิงชนะเลิศ: เนือร์บูร์กริง ผัง 24 ชม.

ฉากสุดท้ายของรายการเกิดขึ้นที่สนามเนือร์บูร์กริงในตำนานกับผัง 24 ชั่วโมงอันน่าสะพรึง ซึ่งนำเอานอร์ดชไลเฟออันโด่งดังรวมเข้ากับสนามแข่งกรังด์ปรีซ์ ปีนี้ก็เหมือนรอบชิงชนะเลิศทุกครั้ง ผู้แข่งขันจะต้องนั่งหลังพวงมาลัยรถ Red Bull X2019 Competition ที่สุดแห่งรถแข่งเสมือนจริงที่ออกแบบมาอย่างไร้ขีดจำกัด นักแข่งทุกคนต้องใช้ทั้งยางเนื้ออ่อน ปานกลาง และแข็ง จึงจำเป็นต้องกะจังหวะในการเปลี่ยนยางให้ดี จะได้มีโอกาสชนะมากที่สุด นอกจากนี้ ความจำเป็นต้องเติมน้ำมันก็ทำให้ทุกวินาทีมีค่าด้วย ดังนั้น แผนการเข้าพิตจึงมีความสำคัญยิ่งขึ้นไปอีก

บรรยากาศ ณ Theater Amsterdam อันแน่นขนัดนั้นอบอวลด้วยความตื่นเต้น แฟนๆ ต่างส่งเสียงโห่ร้องเมื่อ X2019 ในสีประจำชาติของนักแข่งแต่ละคนทะยานออกไปจากเส้นออกตัวดุจจรวดมิสไซล์ Jose Serrano จากสเปนประกาศเจตจำนงชัดเจนแต่ต้น เขาเป็นนักแข่งคนเดียวในแปดอันดับแรกที่ใช้ยางเนื้ออ่อนซึ่งยึดเกาะถนนได้ดี ด้วยหวังจะนำห่างให้มากไว้แต่เนิ่นๆ ไม่นานความเดือดก็บังเกิด เมื่อ Kaj de Bruin เจ้าของฉายา Flying Dutchman พุ่งผ่าน Takuma Miyazono จากญี่ปุ่นไปในโค้งแฮร์พินแรกเพื่อคว้าที่ 3 ขณะเดียวกัน Robert Heck (OP_RobbyHeck) ซึ่งเป็นตัวแทนสหรัฐฯ ก็โชว์ลีลาดุดัน ดั้นด้นไต่ขึ้นมาจนถึงอันดับที่ 5 เรียกว่าใช้ประโยชน์จากยาง Michelin เนื้ออ่อนเต็มอัตราศึกเลยทีเดียว

ในการถล่มสนามความยาว 15.77 ไมล์ที่มีอันตรายไปทุกหย่อมหญ้านั้น นักแข่งทุกคนต่างต้องพารถความเร็วสูงพิเศษของตัวเองผ่านโค้ง 170 แห่งอย่างแม่นยำ แผนกล้าได้กล้าเสียของ Serrano เริ่มจะผลิดอกออกผล เมื่อเขานำขาดไปถึง 5.7 วินาทีตอนจบแล็ปแรก โดยทำเวลาอย่างน่าทึ่งที่ 6 นาที 24 วินาที กับความเร็วเฉลี่ย 150 ไมล์ต่อ ชม. จนทำลายสถิติของแล็ปในชีวิตจริงซึ่งอยู่ที่ 8 นาทีเสียสิ้นซากไปเลย

Coque López จากสเปนเข้าพิตเป็นคนแรก เขาเปลี่ยนยางเนื้อแข็งที่อืดอาดไปเป็นยางเนื้ออ่อน เพราะรู้ว่าตัวเองจะได้สนุกกับสมรรถนะสูงสุดก่อนยางเริ่มสึกเพียงสองแล็ปเท่านั้น ด้าน Serrano นั้นเข้าพิตตอนจบแล็ป 2 เขาทั้งเติมน้ำมันและเปลี่ยนไปใช้ยางเนื้อปานกลาง โดยเก็บยางเนื้อแข็งที่วิ่งช้ากว่าไว้ใช้ในช่วงสุดท้าย นี่ก็เป็นอีกความเสี่ยงที่นักแข่งชาวสเปนคำนวณไว้ ส่วน Valerio Gallo จากอิตาลีนั้นไปอีกทาง เขาเก็บยางเนื้ออ่อนไว้ซิ่งในตอนปลายของการแข่งขัน เดิมพันทุกอย่างไว้กับช่วงสุดท้ายอันร้อนแรง

เมื่อถึงแล็ปที่ 3 สามอันดับแรกอันประกอบด้วย Drumont, de Bruin และ Miyazono ก็พากันเข้าพิต โดยแต่ละคนก็ใช้แต่ละแผนต่างกันไป Drumont กับ de Bruin เลือกใช้ยางเนื้ออ่อนเพื่อห้อเต็มเหยียดในช่วงถัดไป ขณะที่ Miyazono วัดใจกับยางเนื้อแข็ง แล้วเก็บยาง Michelin ที่ทำความเร็วได้ดีที่สุดไว้ใช้หวดเข้าเส้นชัยในช่วงสุดท้าย ซึ่งแผนก็เป็นไปตามที่ Drumont กับ de Bruin คาด พอออกจากพิตได้ไม่นาน ทั้งสองก็ทะยานผ่าน Miyazono ไป แต่มือหนึ่งของญี่ปุ่นไม่ยี่หระ เขาแค่เกาะท้ายสองคนนั้นไป ตั้งอกตั้งใจคอยอยู่ในระยะจู่โจม ทำนองว่าพลาดเมื่อไหร่ได้เรื่องแน่

พอลีลากันเป็นร้อยเล่มเกวียนเช่นนี้ ก็ไม่มีทางเดาผลการแข่งขันได้เลย!

เมื่อการแข่งขันดำเนินมาถึงครึ่งทาง Serrano ก็งานเข้าเต็มๆ เป็นครั้งแรก ระหว่างป้องกันอันดับของตัวเองอยู่นั้น เขาก็พลาดไปสะกิดเอา Heck ออกนอกไลน์วิ่ง จนตัวเองโดนลงโทษให้บวกเวลาไปหนึ่งวินาที ซึ่งนั่นทำให้ความห่างระหว่าง Serrano กับ Drumont ที่ตามมาติดๆ อย่างไม่หยุดหย่อนหดลงเหลือแค่ 2.1 วินาทีเท่านั้น

ขณะเดียวกัน Gallo ก็ห้อสะเด็ดไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยอยู่บนยางเนื้อปานกลาง เขาไต่ขึ้นไปอยู่ที่ 5 และลดระยะห่างจาก Miyazono ซึ่งอยู่ที่ 4 มาเหลือแค่หกวินาที นักแข่งญี่ปุ่นกับอิตาลีเป็นพวกเดียวในห้าอันดับแรกที่ยังอุบยางเนื้อปานกลางซึ่งเป็นไพ่เด็ดไว้ พวกเขารอให้ถึงปลายทางการแข่งจึงค่อยระเบิดความเร็วออกมา แต่แล้วก็มีเรื่องพลิกผันสั่นใจกันอีก เมื่อ Serrano ที่กำลังพยายามข้ามขีดจำกัดโดยลงโทษไปอีกรอบ โดยคราวนี้เพราะวิ่งเกินสนาม ทำให้ต้องส่ง Drumont ขึ้นนำไปโดยปริยาย

เมื่อแล็ปท้ายๆ กำลังใกล้เข้ามา เหล่าผู้นำในสนามต่างก็มุดเข้าพิตไปเปลี่ยนยางใหม่และเติมน้ำมันครั้งสุดท้ายกัน de Bruin ที่ประหยัดน้ำมันมาตลอดการแข่งขันนั้นเติมน้อยกว่าคนอื่นๆ หลายลิตร ทำให้เขาประหยัดเวลาในพิตไปได้มากกว่าสามวินาที ซึ่งเรื่องนี้ดีดเขากลับไปเป็นที่ 1 ในสนามเลยทีเดียว

ลำดับ ณ ช่วงสุดท้ายสู่ธงตาหมากรุกนั้นแน่นอนแล้ว คือ de Bruin (ยางเนื้อแข็ง), Drumont (ยางเนื้อแข็ง), Serrano (ยางเนื้อแข็ง) ตามมาด้วย Miyazono กับ Gallo ที่ใช้ยางเนื้ออ่อนทั้งคู่ และตามหลังอยู่ 9.7 วินาที งานนี้การปิดฉากครั้งใหญ่ได้มาแน่!

เมื่อกลับมาแข่งขันกันต่อ Miyazono กับ Gallo ก็เริ่มจู่โจม พวกเขาค่อยๆ ลดระยะห่างระหว่างตัวเองกับกลุ่มจ่าฝูงดุจหมาป่าหมอบรอเหยื่อ เมื่อพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า เนือร์บูร์กริงตกอยู่ในความมืดมิด แผ่นป้องกันท้องรถของขบวนที่นำอยู่ครูดพื้นจนเกิดประกายไฟดุจดอกไม้เพลิง นั่นคือสัญญาณบอก Miyazono กับ Gallo ว่ากลุ่มจ่าฝูงอยู่แค่เอื้อมแล้ว เมื่อแล็ปรองสุดท้ายผ่านไปได้ครึ่งทาง ระยะห่างระหว่างที่ 4 กับที่ 5 ก็ลดลงมาเหลือห้าวินาที... แล้วก็สี่วินาที และ Gallo ผู้โชว์ความเร็วเหนือชั้นก็ขยับเข้าไปใกล้ Miyazono โดยลดระยะห่างระหว่างทั้งสองเหลือน้อยกว่าสองวินาที

ณ จุดนี้ คนดูแทบไม่ส่งเสียงอะไรออกมาแล้ว เพราะทุกลมหายใจต่างถูกกักในอกเมื่อตาจับจรดไปยังหน้าจอ พวกเขานั่งแทบไม่ติดเบาะ เพราะรอลุ้นดราม่าที่กำลังจะบังเกิด

หลังจากแล็ปที่ 6 ได้ไม่นาน ในที่สุด Miyazono ก็ตาม Serrano ทัน แล้วแซงเขาผ่านโค้งแฮร์พินที่ 2 ส่วน Gallo นั้่นติดแหง็กอยู่หลังนักแข่งสเปนในช่วงกลางสนามที่วิ่งยาก Serrano ต้องป้องกันที่ 3 และแชมป์รายการอย่างจนตรอก เขาทุ่มกำลังคอยบังสุดตัว เฝ้าขัดขวางทุกครั้งที่ Gallo พยายามจะผ่านไป

นั่นทำให้ Miyazono หันไปจดจ่อกับฝูงผู้นำได้ เขาจู่โจมเหยื่อรายแรกทันทีไม่ให้มีการเสียเวลา โดยพุ่งเข้าไลน์ในผ่านโค้ง 3 ซึ่งเป็นโค้งชิเคน แล้วแซงนักแข่งฝรั่งเศสไปอย่างค่อนข้างง่ายดาย

เสี้ยวแล็ปต่อมา de Bruin เกาะการนำสี่วินาทีอันมีค่าไว้สุดแรง ขณะที่ไฟหน้าของ Miyazono ก็ดวงโตและเจิดจ้าขึ้นเรื่อยๆ ในกระจกมองหลัง ส่วน Gallo นั้น เขายังติดแหง็กอยู่หลัง Serrano ทำได้แค่มองโอกาสขึ้นโพเดียมหลุดลอยไปเท่านั้น

เมื่อแสงไฟหน้าของ X2019 แหวกเงา แล็ปสุดท้ายก็กลายเป็นศึกล่าระห่ำสนาม เมื่อกลุ่มจ่าฝูงถึงทางตรงออกจากเส้นชัย Miyazono ก็ร่อนผ่าน de Bruin ไปเป็นจ่าฝูง ตอนนี้ตำแหน่งแชมป์อยู่ในมือเขาแน่นอนแล้ว การต่อสู้ที่แท้จริงจึงไปอยู่กับศึกชิงที่ 2 และที่ 3

แต่แล้ว เรื่องไม่คาดฝันก็พลันบังเกิด เมื่อ de Bruin ที่ใช้แผนประหยัดน้ำมันมาจนถึงขีดสุดถึงคราวน้ำมันหมด ทำให้รถค่อยๆ ชะลอความเร็วลงที่ทางตรง! Drumont ไม่ทันตั้งตัวเลยไปเกี่ยวนักแข่งชาวดัตช์ให้ แต่ยังควบคุมรถไว้ได้ ส่วน Gallo นั้นก็โชคไม่ดีเช่นกัน รถเขาเอียงใส่กำแพง ขณะที่ Serrano รอดจากหายนะไปได้แบบเส้นยาแดงผ่าแปด

ที่ข้างหน้านั้น Takuma Miyazono เข้าเส้นชัยไปแล้ว เขาทำผลงานได้อย่างไร้ที่ติ ณ หนึ่งในการแข่งขันที่ตึงเครียดที่สุดของฤดูกาล และคว้าแชมป์ Nations Cup สมัยที่สองไปครองได้ในที่สุด! Kylian Drumont คว้าที่ 2 มาได้แบบเหงื่อตก ส่วน Jose Serrano ที่เกือบหลับแต่กลับมาได้ ก็คว้าที่ 3 ปิดท้ายให้โพเดียม ผลออกมาแบบนี้ช่างชวนใจสลายสำหรับที่ 4 อย่าง Valerio Gallo ที่วันนี้อาจทำความเร็วในสนามได้มากกว่าทุกคนด้วยซ้ำ

แต่ก็เป็นเรื่องที่เข้าใจได้ นักแข่งย่อมมีทั้งน้ำตาจากความอิ่มเอมกับน้ำตาจากดวงใจอันแตกสลายอยู่แล้ว และดวงตาของผู้ชมอีกไม่น้อยก็ฉายแววเพราะอารมณ์รื้นขึ้นมาเช่นกัน นี่คือฉากจบอันเหมาะสมและเป็นฤดูกาลที่จะตราตรึงในความทรงจำ เพราะมีทั้งการวางแผนกับทักษะชั้นเซียน และความอัศจรรย์เหนือคาดของการแข่งรถนั่นเอง

เมื่อฝุ่นหายตลบ Takuma Miyazono ก็คว้าแชมป์ Nations Cup ปี 2024 ไปด้วย 50 คะแนน ขณะที่ Kylian Drumont ตามมาติดๆ ที่ 47 คะแนน ด้าน Jose Serrano ได้ที่ 3 ไปกับ 42 คะแนน ชนะ Gallo ที่มี 41 คะแนนมาได้อย่างฉิวเฉียด ส่วน Kaj de Bruin ก็มาปิดท้ายห้าอันดับสูงสุดด้วย 33 คะแนนอันน่ายกย่อง

Takuma Miyazono แชมป์ Nations Cup ปี 2024 กล่าวหลังการแข่งขันว่า “ตอนจบครั้งนี้นี่ผมกังวลกว่าที่ชนะในซิดนีย์เมื่อสี่ปีก่อนอีกครับ รอบก่อนชิงผมทำได้ดีนะครับ แล้วพอรอบชิงผมก็มั่นใจกับสภาพรถและแผนการใช้ยางมากด้วย การเลือกใช้ยางเนื้อปานกลางแต่เนิ่นๆ แล้วเปลี่ยนเป็นเนื้อแข็งนี่คิดถูกจริงๆ ครับ พอเห็น Kylian กับ Kaj ใช้ยางเนื้ออ่อนตอนครึ่งทาง ผมก็รู้เลยครับว่าตัวเองมีโอกาสชนะ”

Gran Turismo World Series 2024 รอบ World Finals - Nations Cup
ผลรอบชิงชนะเลิศ