SUPER GT 2023 รอบที่ 3 ณ ซูซูกะ เมื่อการแข่งขันรอบสุดท้ายกลายเป็นการทดสอบความอดทน หลังจาก Igor Omura Fraga เป็นเจ้าสนามเหนือ Q1
Igor Fraga เป็นแชมป์คนแรกของ Gran Turismo World Series และยังเป็นนักแข่ง European F3 ในชีวิตจริง รวมทั้งการแข่งขันอื่นๆ ของโลกด้วย ฤดูกาลนี้เขาย้ายเวทีไปญี่ปุ่นในคลาส GT300 และ Super Formula Lights และนี่คือรายงานของ Fraga ในรอบที่สามของ SUPER GT ที่สนามซูซูกะ
วันที่ 3 และ 4 มิถุนายน Igor Omura Fraga แข่งรายการ SUPER GT รอบที่ 3 ซึ่งจัดขึ้นที่ซูซูกะ เซอร์กิต จังหวัดมิเอะ นอกจากนี้ เขายังแข่งชิงแชมป์ Japanese Super Formula Lights (SFL) ไปเมื่อวันที่ 20-21 พฤษภาคม ทำให้นับจากการแข่ง SUPER GT ครั้งล่าสุดมา เวลาก็ล่วงเลยมาสี่สัปดาห์แล้ว Fraga เป็นนักแข่ง A ใน ANEST IWATA Racing ทีม Arnage โดยมีพาร์ทเนอร์คือ Yuga Furutani เป็นนักแข่ง B และ Miki Koyama เป็นนักแข่ง C
Lexus RC F GT3 ของ ANEST IWATA Racing เป็นรถที่เหมาะกับซูซูกะ เซอร์กิตเป็นอย่างดี เพราะที่นี่ต้องใช้แรงกดจากอากาศพลศาสตร์ และทางทีมก็มีแต่ต้องคว้าที่ 10 ขึ้นไปมาให้ได้ จึงจะได้คะแนนจากรายการแข่งนี้ไป
ในการฝึกซ้อมอิสระเมื่อตอนบ่ายวันอาทิตย์นั้น Fraga ลงสนามเป็นคนแรกของทีม ทว่า เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ต้องเบรกยาวๆ น้ำหนักของรถก็เทไปข้างหน้า ทำให้จมูกของรถทิ่มลงโดยไม่จำเป็น Fraga รู้สึกว่ารถเสียสมดุลไม่เป็นท่าเวลาเข้าโค้ง จนต้องเข้าพิตไปปรับกันครั้งแล้วครั้งเล่า
เขารู้สึกว่า "ดูท่าเราจะตกที่นั่งลำบากในรอบคัดเลือกทางการของ Q1 และอาจไปไม่ถึง Q2 เลยด้วยซ้ำครับ" ดังนั้น Fraga, Furutani และบรรดาวิศวกรจึงพากันเสนอความคิดเพื่อแก้ไขสถานการณ์ให้ดีขึ้น จนกระทั่งรอบคัดเลือก Q1 ในตอนบ่ายมาถึง ใน Q1 นั้น ทั้งกลุ่ม Q1A ที่ประกอบด้วยรถ 14 คัน และกลุ่ม Q1B กับรถ 13 คันที่เหลืออยู่ ต่างต้องแข่งขันในเวลา 10 นาทีที่กำหนดทั้งสองกลุ่ม รถที่ได้แปดอันดับแรกของแต่ละกลุ่ม จะได้ไปอยู่ใน 16 ตำแหน่ง ณ เส้นออกตัวของรอบคัดเลือกทางการ Q2 Fraga เป็นผู้รับผิดชอบ Q1 และลงแข่งในกลุ่ม B
Igor Fraga กำลังจะฝึกซ้อมอิสระ ในแง่อากาศพลศาสตร์แล้ว Lexus RC F GT3 ของ ANEST IWATA Racing เหมาะกับซูซูกะ เซอร์กิตเป็นอย่างดี
ภาพจากงานพบปะแฟนๆ จากซ้าย Koyama, Furutani และ Fraga
Fraga กับ Furutani กำลังหารือเรื่องการปรับแต่งรถในพิต
Fraga บน ANEST IWATA Racing RC F GT3
Fraga ทำเวลาได้ดีที่สุดในกลุ่ม B ของรอบคัดเลือกทางการ Q1
ก่อนที่รอบคัดเลือกทางการจะเริ่ม ทีมงานตรวจสอบสภาพรถกันจนหยดสุดท้าย พร้อมกันนั้นก็พบปัญหากับระบบส่งกำลัง และได้แก้ไขไปแล้ว
Fraga ลงสนามในกลุ่ม Q1B ของรอบคัดเลือกทางการพร้อมรถที่ปรับแต่งมาใหม่ และใช้เวลาวอร์มยางไปสามแล็ป ก่อนที่เขาจะเริ่มแข่งจับเวลาในแล็ปที่ 4
เมื่อผ่านเส้นคอนโทรลหลังจากจัดเต็มกับการแข่งจับเวลาไปแล้ว Fraga ก็มองหอนาฬิกาข้างสนาม เมื่อเห็นรถหมายเลข 50 อยู่อันดับสูงสุด เขาก็สับสนไปครู่พลางคิดว่า "รถหมายเลข 50 ได้ที่ 1... เดี๋ยวนะ นั่นมันหมายเลขรถเราอีกแล้วเหรอ"
ณ ตอนนั้น เวลาที่ดีที่สุดในรอบคัดเลือกกลุ่ม Q1B ก็ไม่ใช่ของใครแต่คือ Fraga นั่นเอง เขาทำเวลาไป 1 นาที 57.505 วินาที ท่ามกลางรถทั้งหมด 13 คันในกลุ่ม Q1B นี่เป็นครั้งแรกในช่วงสองการแข่งขัน ที่ทางทีมผ่าน Q1 ไปได้สำเร็จ
Furutani เองก็ไม่ต่างจาก Fraga เขาลงสนามในช่วง Q2 และรู้สึกว่าสภาพรถดีขึ้น ทว่า เวลาไม่ได้ดีขึ้นตามไปด้วย เขาจบช่วง Q2 โดยได้ที่ 15 จากทั้งหมด 16 อันดับ นั่นทำให้สุดท้ายแล้วพวกเขาอยู่อันดับที่ 15 ณ เส้นออกตัว
เมื่อมองย้อนไปยังผลของรอบคัดเลือก Fraga บอกว่า "การทำเวลาได้ดีที่สุดใน Q1 ทำให้รู้สึกดีจริงๆ ครับ การได้ที่ 1 แล้วรู้สึกแบบนี้ครั้งสุดท้ายก็น่าจะสามปีมาแล้ว เราก็หาสาเหตุกันไม่เจอนะครับ ว่าทำไมเวลาใน Q2 ไม่ดีขึ้น แถมก็ยังมีปัญหาให้ต้องแก้ด้วย แต่ที่เวลาดีสุดในรอบคัดเลือก Q1 ก็ทำให้ทุกคนมั่นใจได้อีกครั้งว่าเรามีทีมที่ทำผลลัพธ์แบบนี้ได้ และนั่นทำให้มีแรงฮึดขึ้นมากันทั้งทีมครับ"
รอบสุดท้าย
การแข่งรอบสุดท้ายเริ่มขึ้นเวลา 13.30 น. ของวันอาทิตย์ที่ 4 มิถุนายน โดยเป็นการแข่ง 450 กม. เหมือนรอบสุดท้ายที่ฟูจิ และมีข้อกำหนดว่าต้องเข้าพิตสองครั้ง
เมื่อมีรถที่เหมาะกับสนามแข่ง และนักแข่งทั้ง Fraga และ Furutani ก็รู้จักรถที่ตัวเองใช้เป็นอย่างดี ทีมที่ออกตัวในอันดับที่ 15 ของคลาส GT300 จึงมุ่งจะไต่อันดับขึ้นไปด้วยความรวดเร็ว โดย Fraga รับหน้าที่เริ่มแข่ง เขาลงสู่สนามด้วย RC F GT3 ของ ANEST IWATA Racing
เขาออกตัวอย่างสวยงาม และไต่อันดับขึ้นนำรถคู่แข่งที่ต้องเขาพิตแต่แรกๆ จนไปอยู่อันดับที่ 13 ในแล็ปที่ 3 และอันดับที่ 12 ในแล็ปที่ 5
เมื่อรถเซฟตีเข้าสู่สนามในแล็ปที่ 8 ทีมต่างๆ ก็เริ่มเข้าพิตกันทันควัน แต่ Fraga ยังวิ่งต่อ และพอถึงแล็ปที่ 13 ก็ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 8
Fraga ยังคงผ่านแต่ละแล็ปไปพร้อมแซงคู่แข่งที่ยางสึกกันไปแล้ว และขึ้นไปเป็นอันดับ 6 ในแล็ปที่ 15 และอันดับ 4 ในแล็ปที่ 19 ซึ่งทีมเข้าพิต ณ จุดนี้ และเปลี่ยนยางพร้อมเติมน้ำมันแต่ไม่เปลี่ยนนักแข่ง ทว่า การเข้าพิตครั้งนี้ใช้เวลาพอสมควร ทำให้พอ Fraga กลับสู่สนาม ก็ตกไปอยู่อันดับที่ 23
เขาจึงต้องไล่บี้ด้วยความเร็วสูงจากจุดนั้น เมื่อถึงแล็ปที่ 33 เขาก็ขึ้นมาเป็นที่ 17 ก่อนจะขึ้นมาเป็นที่ 15 ในแล็ปที่ 37 พอถึงแล็ปที่ 38 เขาก็ขึ้นเป็นที่ 12 และในที่สุด เมื่อถึงแล็ปที่ 44 เขาก็ขึ้นไปอยู่ที่ 2
จากนั้น ทางทีมก็ให้ Fraga เข้าพิตในแล็ปที่ 46 ซึ่งก็เพื่อเข้าพิตครั้งที่ 2 ตามข้อกำหนด เปลี่ยนยาง และเติมน้ำมัน ก่อนจะส่งพวงมาลัยให้ Furutani ไปพารถเข้าเส้นชัย ทว่า การเข้าพิตครั้งที่ 2 นี้ก็กินเวลาไปมากกว่าที่คิด ทำให้พอ Furutani กลับเข้าสนาม ทีมก็ตกไปอยู่อันดับที่ 20
นั่นทำให้ทีมต้องกลับมาไล่ไต่อันดับอีกครั้ง อย่างไรก็ดี ในแล็ปที่ 55 ก็เกิดอุบัติเหตุครั้งใหญ่ขึ้นในสนาม และรถเซฟตีก็วิ่งเข้ามา อุบัติเหตุดังกล่าวลงเอยด้วยธงแดงที่โบกสะบัด โดยไม่มีการเริ่มใหม่ และการแข่งขันก็จบลงไปทั้งอย่างนั้น ซึ่งนั่นเกิดขึ้นในตอนที่แข่งกันมาได้ 75% แล้ว
การไล่ไต่อันดับของทางทีมจึงจบลงตรงนี้ และอันดับที่ทำได้ก็คือที่ 17 แม้จะมั่นใจได้ว่าพวกเขาเร็วพอจะขึ้นเป็นที่หนึ่ง แต่การแข่งรอบสุดท้ายนี้ก็กลับกลายเป็นการทดสอบความอดทน
และถึงพวกเขาจะทำคะแนนไม่ได้อีกแล้ว แต่ Fraga ก็พูดถึงรอบที่ 3 ณ ซูซูกะว่า "ตอนแข่ง สัมผัสของรถดีขึ้นมาก แล้วก็ขับสนุกมากเลยครับ รอบสุดท้ายนี่ยางไม่สึกเร็วเท่าคันอื่นในสนาม ผมเลยทำความเร็วได้ในขณะที่คันอื่นความเร็วตกกัน ผมว่าที่ผมแซงไปได้หลายคันก็เพราะแบบนั้นแหละครับ"
SUPER GT รอบที่ 4 จะจัดขึ้นในเดือนสิงหาคม และจะเป็นศึกประชันความเร็วที่ฟูจิ สปีดเวย์อีกครั้ง ระหว่างนี้ การแข่งครั้งต่อไปของ Fraga ก็คือ Super Formula Lights (SFL) รอบที่ 2 ในวันที่ 17-18 มิถุนายน ณ สนามสปอร์ตแลนด์ซูโก
"ผมมีเรื่องต้องทำเยอะแยะเลยครับ มีคอร์สฝึกสำหรับการแข่งครั้งต่อไป (SFL) แถมต้องไปสอนเลกเชอร์ที่ Bridgestone eMotorsports Institute ด้วย แล้วก็มีบางอย่างที่ผมอยากปรับปรุงให้รถ Formula Lights ของเราใหม่ ก็เลยต้องเตรียมประชุมออนไลน์กับทางทีมวิศวกรด้วยครับ"